ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




คำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย

คำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย

คำสั่งศาลชั้นต้นเรื่องค่าขึ้นศาล จำเลยผู้อุทธรณ์ยังมีสิทธิโต้แย้งคำสั่งโดยการอุทธรณ์ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอยด้วยกฎหมายได้ และเมื่อยังไม่มีข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเป็นที่สุดในเรื่องค่าขึ้นศาล ศาลชั้นต้นก็ยังไม่อาจจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6968/2540
 
คำสั่งของศาลชั้นต้นที่กำหนดให้จำเลยนำค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์มาชำระนั้น แม้จะพ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วก็ตาม แต่คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว จำเลยยังโต้แย้งโดยการอุทธรณ์อยู่ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้โดยไม่จำต้องรอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งก่อน เมื่อยังไม่มีข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเป็นที่สุดประการใด ศาลชั้นต้นก็ยังไม่อาจจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยได้

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน2,312,788.45 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปี ของต้นเงิน 1,662,855.78บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 33,868 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จโดยให้จำเลยที่ 2 รับผิดเป็นเงิน 1,117,525.10 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปีของต้นเงิน 816,020.96 บาท และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน 416 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยที่ 3 รับผิดในจำนวนเงิน 186,177.58 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 18 ต่อปีของต้นเงิน136,003.48 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระหรือชำระไม่ครบถ้วน ให้ยึดทรัพย์จำนองออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้ให้โจทก์จนครบ ในส่วนของจำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้บังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความลงวันที่ 20 ธันวาคม 2536 กับให้จำเลยที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์

          จำเลยที่ 2 อุทธรณ์สรุปได้ว่า จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ไม่เกินต้นเงิน 600,000บาท นับแต่วันทำบันทึกครั้งสุดท้ายคือวันที่ 2 มิถุนายน 2532 คำนวณดอกเบี้ยถึงวันที่10 มิถุนายน 2534 เป็นเงิน 180,000 บาท รวมเป็นเงิน 780,000 บาท ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับหรือแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นโดยย้อนสำนวนให้ศาลชั้นต้นพิจารณาใหม่ตามรูปคดีหรือตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 จะเห็นสมควร

          ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับหรือแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นจึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ให้จำเลยที่ 2 นำค่าขึ้นศาลมาชำระให้ครบถ้วนตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์ภายใน 5 วันนับแต่วันนี้มิฉะนั้นถือว่าไม่ติดใจอุทธรณ์ และมีคำสั่งขยายระยะเวลาการชำระค่าขึ้นศาลออกไปจนถึงวันที่21 กุมภาพันธ์ 2537

          จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
          โจทก์ยื่นคำร้องว่า เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำค่าขึ้นศาลที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์มาชำระให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่จำเลยที่ 2 ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งกลับยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 วรรคสอง บัญญัติบังคับให้ศาลชั้นต้นต้องมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งดังกล่าว

          ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า ศาลได้มีคำสั่งในอุทธรณ์ฉบับลงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2537แล้ว จึงไม่จำต้องสั่งซ้ำอีก ยกคำร้อง

          โจทก์อุทธรณ์โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นให้อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "มีปัญหาข้อกฎหมายที่จะวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่าเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 2 นำค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์มาชำระ แต่จำเลยที่ 2 ไม่ชำระภายในกำหนด ศาลจะต้องมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 หรือไม่ เห็นว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่กำหนดให้จำเลยที่ 2 นำค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทในชั้นอุทธรณ์มาชำระนั้น แม้จะพ้นระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดแล้วก็ตาม แต่คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าว จำเลยที่ 2 ยังโต้แย้งโดยการอุทธรณ์อยู่ว่าเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้โดยไม่จำต้องรอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์อีกครั้งหนึ่งก่อน เมื่อยังไม่มีข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาเป็นที่สุดประการใด ศาลชั้นต้นก็ยังไม่อาจจะมีคำสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น"


          พิพากษายืน

 

  ป.วิ.พ. มาตรา 18, 234   
มาตรา 18 ให้ศาลมีอำนาจที่จะตรวจคำคู่ความที่พนักงาน เจ้าหน้าที่ของศาลได้รับไว้เพื่อยื่นต่อศาล หรือส่งให้แก่คู่ความ หรือบุคคลใด ๆ

ถ้าศาลเห็นว่าคำคู่ความที่ได้ยื่นไว้ดังกล่าวแล้วนั้น อ่านไม่ออก หรืออ่านไม่เข้าใจหรือการเขียนฟุ่มเฟือยเกินไป หรือไม่มีรายการ ไม่มีลายมือชื่อ ไม่แนบเอกสารต่าง ๆ ตามที่กฎหมายต้องการ หรือมิได้ชำระหรือวางค่าธรรมเนียมศาลโดยถูกต้องครบถ้วน ศาลจะมีคำสั่งให้คืนคำคู่ความนั้นไปให้ทำมาใหม่ หรือแก้ไขเพิ่มเติม หรือชำระ หรือวางค่าธรรมเนียมศาลให้ถูกต้องครบถ้วนภายใน ระยะเวลาและกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ตลอดจนเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม ตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้ ถ้ามิได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาล ในระยะเวลาหรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ก็ให้มีคำสั่งไม่รับคำคู่ความนั้น

ถ้าศาลเห็นว่าคำคู่ความที่ได้นำมายื่นดั่งกล่าวข้างต้นมิได้เป็นไป ตามเงื่อนไขแห่งกฎหมายที่บังคับไว้ นอกจากที่กล่าวมาในวรรคก่อน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นว่าสิทธิของคู่ความหรือบุคคล ซึ่งยื่นคำคู่ความนั้นได้ถูกจำกัดห้ามโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เรื่องเขตอำนาจศาล ก็ให้ศาลมีคำสั่งไม่รับหรือคืนคำคู่ความนั้นไป เพื่อยื่นต่อศาลที่มีเขตอำนาจ

ถ้าไม่มีข้อขัดดังกล่าวแล้ว ก็ให้ศาลจดแจ้งแสดงการรับคำคู่ความ นั้นไว้บนคำคู่ความนั้นเองหรือในที่อื่น

คำสั่งของศาลที่ไม่รับหรือให้คืนคำคู่ความตาม มาตรานี้ ให้อุทธรณ์ และฎีกาได้ตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 227 มาตรา 228 และ มาตรา 247

มาตรา 234 ถ้าศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์ คำสั่งศาลนั้นไปยังศาลอุทธรณ์โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น และนำค่าฤชาธรรมเนียมทั้งปวงมาวางศาลและนำเงินมาชำระตามคำพิพากษา หรือหาประกันให้ไว้ต่อศาลภายในกำหนดสิบห้าวัน นับแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่ง

 




ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

การเพิ่มจำนวนผู้เป็นโจทก์เข้ามาในคำฟ้องเดิม
บุคคลภายนอกไม่ส่งเงินที่ถูกอายัด
คดีขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันอาจคำนวณเป็นราคาเงินได้
ขอคุ้มครองชัวคราวระหว่างพิจารณาคดี
ให้จำเลยเปิดทางพิพาทชั่วคราว
วิธีการชั่วคราวก่อนศาลมีคำพิพากษา
หน้าที่ของผู้อุทธรณ์ในกรณีศาลชั้นต้นที่ไม่รับอุทธรณ์
คำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีจากสารบบความ
คำสั่งระหว่างพิจารณาจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์
ยกคำร้องขอฟ้องฎีกาอย่างคนอนาถา
แสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายในกำหนด 8 วัน
บันทึกการปิดหมายของเจ้าหน้าที่ศาล
เจ้าพนักงานศาลไม่ส่งสำเนาคำร้องขัดทรัพย์
ผลแห่งคำพิพากษาและคำสั่ง
ลักษณะ 2 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง หมวด 1 หลักทั่วไป
ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน
คำฟ้องโจทก์ไม่มีลายมือชื่อของผู้เรียงพิมพ์
การส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องข้ามเขต