
ซื้อที่ดินแล้วได้ไม่ครบตามหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย | |
สวัสดีครับ ผมขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ ผมได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ตรงกลางแปลงหนึ่งของยายคนหนึ่ง ซึ่งติดกับถนนหลวง เขาได้ติดป้ายประกาศขายที่ดินพร้อมห้องแถว 2 ห้อง ในราคา 2.3 ล้านบาท โดยผมให้เขาทำการวัดที่ดินที่จะขายให้ผมว่าได้กี่ตารางวา เขาก็ได้วัดกับหลานชายของเขาและพ่อของผม แล้วไปคำนวนกันได้ 72 ตรว. จึงจ่ายเงินมัดจำ 3 แสนบาท พร้อมทำหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย โดยระบุในสัญญาว่า 1.ผู้ขายตกลงขายที่ดิน 72 ตรว. พร้อมสิ่งปลูกสร้างห้องแถว 2 ห้อง ในสภาพที่สมบูรณ์ไม่มีการรื้อถอน หรือทำลายใด ๆ 2. ใครผิดสัญญาต้องคืนเงินมัดจำจาก 3 แสน เป็น 6 แสน พอ 1 เดือนผ่านไป กรมที่ดินมารังวัดแบ่งโฉนด ปรากฎว่ามีที่ดินเพียง 62 ตรว. เจ้าหน้าทีรังวัดขอเพิ่มที่ดินด้านข้างซ้ายหรือขวาก็ไม่ให้ และให้ลดราคาตามสัดส่วนทีดินที่เสียไปก็ไม่ยอม อ้างว่าจะขายแบบนี้ ทั้ง ๆที่ในสัญญาจะซื้อจะขายระบุไว้ชัดเจน 72 ตรว. และเสาบ้านด้านหน้ายังอยู่ต่ำกว่าหมุดที่กรมที่ดินมาปักอีก ผ มขอเงินมัดจำคืนไม่ซื้อแล้วเพราะเนื้อที่ไม่ครบก็บอกไม่มี ถ้ามีไม่ให้ ขอระบุเวลาขอเงินมัดจำคืนก็ไม่ได้ พร้อมทั้งบอกว่าถ้าโฉนดออกแล้ว ถ้าผมไม่ไปรับโอนเขาจะริบเงินมัดจำผมอ้างว่าเขาผิดสัญญา ผมจึงต้องซื้อ จึงขอถามว่าถ้าผมจะฟ้องต่อศาลขอเงินคืน มีเอกสารเป็นโฉนดและหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย จะชนะมากน้อยแค่ไหน ต้องใช้เวลานานเท่าใด ค่าใช้จ่ายในการดำเนินเรื่องจะคิดอย่างไรช่วยกรุณาเข้ามาตอบแก่ผมด้วยนะครับ ขอบคุณอย่างสูงครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ผู้เสียหาย (arnon_tnna-at-hotmail-dot-c0m) :: วันที่ลงประกาศ 2013-11-09 14:57:07 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3380269) | |
การซื้อขายที่ดินตามคำถามเป็นการซื้อขายที่ระบุจำนวนเนื้อที่ดินที่จะซื้อขายไว้แน่นอน ตามสัญญาจะซื้อขาย ในกรณีที่เจ้าพนักงานที่ดินได้ทำการรังวัดแล้วพบว่าที่ดินที่ซื้อขายกันไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ในสัญญา จาก 72 ตรว. เหลือเพียง 62 ตรว. กรณีจึงเป็นการที่ผู้จะขายต้องการส่งมอบที่ดินขาดตกบกพร่องเกินกว่าร้อยละห้า กล่าวคือขาดไปร้อยละ 13.88 ดังนั้นผู้จะซื้อจึงมีสิทธิที่จะบอกปัดไม่ซื้อขายนั้นก็ได้ และเมื่อปรากฏว่าผู้จะขายปฏิเสธไม่ลดราคาลงตามสัดส่วนของเนื้อที่ดินจึงเป็นการผิดสัญญาจะซื้อขาย ผู้จะซื้อมีสิทธิเรียกค่ามัดจำคืนและเรียกเบี่้ยปรับได้ แต่ข้อตกลงให้เบี้ยปรับกัน 300,000 บาท (เงินมัดจำจาก 3 แสน เป็น 6 แสน) หากศาลเห็นว่าสูงเกินไปศาลมีอำนาจลดลงได้ตามที่เห็นสมควร ระยะเวลาในการดำเนินคดีไม่สามารถให้คำตอบได้ชัดเจนอยู่พฤติการณ์ของคู่กรณี แต่ละรายที่แตกต่างกันแต่คงไม่เกิน 4 - 10 เดือน สำหรับศาลชั้นต้นครับ มาตรา 466 ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์นั้น หากว่าได้ระบุจำนวนเนื้อที่ทั้งหมดไว้ และผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินน้อยหรือมากไปกว่าที่ได้สัญญาไซร้ ท่านว่าผู้ซื้อจะปัดเสีย หรือจะรับเอาไว้และใช้ราคาตามส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก มาตรา 383 ถ้าเบี้ยปรับที่ริบนั้นสูงเกินส่วน ศาลจะลดลงเป็นจำนวนพอสมควรก็ได้ ในการที่จะวินิจฉัยว่าสมควรเพียงใดนั้น ท่านให้พิเคราะห์ถึงทางได้เสียของเจ้าหนี้ทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สิน เมื่อได้ใช้เงินตามเบี้ยปรับแล้ว สิทธิเรียกร้องขอลดก็เป็นอันขาดไป
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-11-18 19:32:54 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3380271) | |
ศาลลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-11-18 19:43:06 |
[1] |