1)ดิฉันสามารถแจ้งความย้อนหลังได้ไหม

ตอบ   ยังอยู่ในอายุความ แจ้งความได้ครับ

2)เป็นคดีพรากผู้เยาว์หรือเปล่า

ตอบ  เป็นคดีพรากผู้เยาว์ครับ เพราะพรากไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้เยาว์เต็มใจจไปด้วยก็ตาม
มาตรา 319 ผู้ใดพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไป เสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และ ปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท

3)ดิฉันจะเรียกค่าเสียหายจากฝ่ายชายได้หรือไม่

ตอบ   ไปแจ้งความเอาผิดเป็นคดีอาญา เดี๋ยวผู้ถูกกล่าวหาก็เสนอมาให้เองครับยังไม่ต้องฟ้องก็ได้ เอาพอประมาณนะครับ อย่าถึงกับเป็นการค้ากำไรเลย

4)ดิฉันจะแจ้งความเอาผิดได้ไหม

ตอบ  แจ้งความได้ และฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายพิสูจน์ความผิด

5)ถ้าได้ แล้วถ้าฝ่ายชายอ้างว่าติดราชการดิฉันสามารถฟ้องได้หรือไม่

ตอบ   เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนครับทางคุณรอพนักงานสอบสวนนัดหมายอีกทีครับ

6)จะฟ้องอีกได้ไหม เมื่อฝ่ายชายปฏิเสธว่าไม่ได้มีอะไรกับลูกสาว แต่ลูกสาวบอกว่ามี ฝ่ายชายจึงอ้างขอหลักฐานที่แสดงว่ามีอะไรกัน และคดีนี้จะยังเป็นคดีพรากผู้เยาว์อยู่อีกหรือเปล่าค่ะ

ตอบ   ก็อยู่ที่ลูกสาวเราด้วยว่าจะเข้าข้างใคร ถ้าลูกสาวบอกไปเที่ยวหาโดยไม่มีอะไรกัน และเต็มใจไปเองก็ไม่เป็นพรากผู้เยาว์ เพราะกรณีเต็มใจไปเองต้องมีการกระทำอนาจารกันด้วย(มีเพศสัมพันธ์) เป็นเรื่องการพิสูจน์ครับ

7)หากแจ้งความแล้วถอนแจ้งความได้ไหม

ตอบ   คดีพรากผู้เยาว์เป็นความผิดต่อแผ่นดินถอนแจ้งความไม่ได้ครับ

8)ฝ่ายชายมีสิทธิฟ้องกลับไหม

ตอบ   มีสิทธิครับ เพราะเขาปฏิเสธว่าไม่มีอะไรกัน แสดงว่าคุณนำความเท็จมาปรักปรำให้เขาได้รับโทษทางอาญา มีความผิดฐานแจ้งความเท็จนะครับ