ReadyPlanet.com


เกี่ยวกับ พรบ ล้างมลทิน


เมื่อปี 2543 ผมเคยถูกศาลตัดสินปรับ 10000 บาท และจำคุก 1 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา ในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แต่ว่าตอนนี้ผมต้องการลงสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้านจะสามารถสมัครได้หรือไม่ เพราะตามมาตรา 12 (10)(11) แห่ง พรบ ปกครองท้องที่ แต่ว่าเมื่อปี 2550 ผมได้รับการล้างมลทินแล้ว จะยังสามารถสมัครได้หรือเปล่าครับ รบกวนช่วยตอบด้วย ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ แดงน้อย :: วันที่ลงประกาศ 2011-09-06 10:15:40


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3317717)

สมัครไม่ได้ครับเพราะขาดคุณสมบัติแม้จะได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ. ล้างมลทินฯ 2550 ก็ตาม

คุณสมบัติผู้สมัคร ผู้ใหญ่บ้าน
(10) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ และยังไม่พ้นกำหนดเวลา 10 ปีนับแต่วันพ้นโทษ
(11) ไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ กฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า กฎหมายว่าด้วยอุทยานแห่งชาติ กฎหมายว่าด้วยศุลกากร กฎหมายว่าด้วยอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ในฐานความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ กฎหมายว่าด้วยที่ดิน ในฐานความผิดเกี่ยวกับที่สาธารณประโยชน์ กฎหมายว่าด้วยยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง และกฎหมายว่าด้วยการพนัน ในฐานความผิดเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก

กรมการปกครองหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (เรื่องเสร็จที่ 77/2552) สรุปความได้ว่า นายสมจิต มหาคาม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 13 ตำบลเสอเพลอ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดว่า กระทำผิดเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ซึ่งศาลได้พิพากษาลงโทษ และเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน 2549 ถึงวันที่ 12 กันยายน 2544 ซึ่งจังหวัดอุดรธานีมีความเห็นว่า นายสมจิต เป็นผู้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามการเป็นผู้ใหญ่บ้านตามมาตรา 12 (11) และ (15) แห่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 และไม่เข้าข่ายเป็นผู้มีคุณสมบัติที่จะได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ พ.ศ. 2550

คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) มีความเห็นว่า โดยที่มาตรา 12 (11) แห่ง พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ฯบัญญัติคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านไว้ว่า ต้องไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่า กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายตามที่กำหนด

ดังนั้น จึงไม่ต้องพิจารณาว่าบุคคลนั้นจะมีโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ เพียงแต่บุคคลดังกล่าวถูกศาลพิพากษาว่ากระทำความผิดก็ต้องถือว่า เป็นผู้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามในการเป็นผู้ใหญ่บ้าน

นายสมจิต จึงเป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่า กระทำความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเป็นการขาดคุณสมบัติแล้ว

สำหรับประเด็นที่ว่า นายสมจิตได้รับการล้างมลทินตาม พ.ร.บ.ล้างมลทินฯหรือไม่นั้น เห็นว่า การล้างมลทินมีผลเป็นการล้างมลทินเฉพาะโทษที่ผู้ต้องโทษได้รับเท่านั้น มิได้มีผลเป็นการลบล้างการกระทำความผิดอันเป็นเหตุให้ถูกลงโทษนั้นด้วย โดยให้ถือว่าผู้นั้นมิได้เคยถูกลงโทษในกรณีความผิดนั้นๆ แต่มิได้มีบทบัญญัติใดที่กำหนดให้ลบล้างพฤติกรรมการกระทำความผิดด้วย ซึ่งจากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ผ่านมาก็ได้พิพากษาไว้ตามแนวทางดังกล่าวเช่นเดียวกัน

เมื่อปรากฏว่า นายสมจิต ถูกศาลพิพากษาว่า กระทำความผิดฯ ให้ลงโทษปรับและจำคุก 6 เดือน โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี จึงไม่ได้รับประโยชน์จาก พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ

สำหรับกรณีที่นายสมจิตถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งก่อนวันที่ พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมซึ่งได้เพิ่มการเสียสิทธิในกรณีที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เป็นลักษณะต้องห้ามของการสมัครรับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้าน นายสมจิตจะมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายที่เกิดขึ้นในภายหลังหรือไม่

เห็นว่า พ.ร.บ.ลักษณะปกครองท้องที่ฯ บัญญัติว่า ผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านต้องไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างเสียสิทธิหรือถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง โดยไม่ได้กำหนดวันเริ่มต้นเอาไว้เป็นพิเศษ ดังนั้น เมื่อนายสมจิตยังอยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง จึงเป็นผู้ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามการเป็นผู้ใหญ่บ้าน
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-11-19 20:24:33



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล