ยาวหน่อยนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เพื่อนได้แจ้งชื่อคนอื่นเป็นพ่อของลูก เนื่องจากตอนนั้นเพื่อนได้คบกับผู้ชายสองคน ผู้ชายคนแรก (ไม่ได้จดทะเบียน) เพื่อนหมดรักไปนานแล้ว เพราะว่าเอาแต่เล่นการพนัน เจ้าชู้ ไม่ทำงาน เพื่อนทำงานคนเดียวหาเลี้ยงหลายชีวิต ต้องไปกู้เงินเป็นหนี้เป็นสิน เพราะต้องเอามาจ่ายค่าเสียพนันให้แฟนคนแรก เป็นหนี้เข้าหลักแสน แต่ที่เพื่อนไม่เลิกกับมัน เพราะมีลูกด้วยกัน 1 คน

ต่อมาเพื่อนได้รู้จักผู้ชายคนที่สอง แต่ไม่ได้บอกเค้าว่ามีแฟนและลูกอยู่แล้ว เพื่อนรักเค้ามาก เพราะว่าผู้ชายคนที่สองเอาการเอางาน และที่สำคัญเป็นคนรักครอบครัว (อันนี้เราเห็นด้วยกับเพื่อน เพราะเท่าที่ดู และได้สัมผัส เค้าเป็นคนรับผิดชอบครอบครัวมากๆ ประมาณว่าปากท้องลูก เมียต้องมาก่อน) แล้วเพื่อนก็ได้เกินเลยกับผู้ชายคนที่สอง เพื่อนคบกับผู้ชายคนที่สองได้ประมาณครึ่งปี เพื่อนถึงบอกผู้ชายคนที่สองว่ามีแฟนอยู่แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่ามีลูก ผู้ชายคนที่สองก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็คบกันต่อมาเรื่อยๆ จนคบกันมาปีกว่าๆ

ต่อมาเพื่อนมารู้ตัวว่าท้อง เพื่อนรู้ตัวว่าเป็นลูกของผู้ชายคนที่สอง แต่ผู้ชายคนแรกเค้าก็คิดว่าเป็นลูกของเค้า เพราะเค้าได้ใช้กำลังบังคับเพื่อนครั้งนึง (ขออธิบายนะคะ คือเพื่อนไม่ได้มีอะไรกับแฟนคนแรกเลยค่ะ ตั้งแต่ที่เพื่อนได้มีอะไรกับผู้ชายคนที่สองแล้ว ประมาณว่าเพื่อนไม่ยอมให้แฟนคนแรกแตะตัวเลยค่ะ แต่มีครั้งนึงที่ผู้ชายคนแรกได้ใช้กำลังบังคับเพื่อนค่ะ เค้าถึงได้คิดว่าเด็กในท้องเพื่อนเป็นลูกเค้า)

ถึงตอนนี้เพื่อนเครียดมาก เพื่อนตัดสินใจที่จะเลือกใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายคนแรก เพราะว่าเพื่อนไม่อยากทิ้งลูกคนแรก แต่เพื่อนก็ได้บอกผู้ชายคนที่สองเหมือนกันว่าท้อง ผู้ชายคนที่สองก็บอกกับเพื่อนว่าถ้าจะให้เค้ารับผิดชอบ เพื่อนจะต้องไปอยู่กับเค้านะ แต่เพื่อนปฎิเสธผู้ชายคนที่สองไป เพราะเพื่อนคิดว่าถ้าบอกผู้ชายคนที่สองไปว่าเพื่อนเคยมีลูกแล้ว เพื่อนกลัวผู้ชายคนนั้นจะรับไม่ได้ รวมทั้งมีหนี้สินท่วมหัวอีก เพื่อนจึงเลือกที่จะเลิกกับผู้ชายคนที่สอง ทั้งๆ ที่รักมาก

ชีวิตของเพื่อนดำเนินต่อไป กับผู้ชายคนแรก แบบทุกลักทุเล ท้องก็ไม่ได้ฝาก เพราะไม่มีเงิน ข้าวก็ไม่ได้กินครบสามมื้อ ต้องห้อยโหนรถเมล์ไปทำงานตั้งแต่วันแรกที่ท้อง ยันวันคลอด ยังดีที่วันคลอดเพื่อนสามารถใช้สิทธิ์ประกันสังคมได้ ไม่งั้นก็ไม่รู้จะเอาค่าคลอดที่ไหนมาจ่ายหมอ

ดังนั้นวันที่ลูกเพื่อนเกิด แฟนคนแรกจึงได้ใส่ชื่อตัวเองเป็นพ่อเด็กค่ะ แล้วเพื่อนก็ดำเนินชีวิตอันแสนลำบากต่อไปเรื่อยๆ อ้อ....ลืมค่ะ ระหว่างที่ท้องอยู่เพื่อนยังมีโทรคุยกับแฟนคนที่สองอยู่นะคะ แต่นานๆ ครั้ง (ไม่ได้เจอกันนะคะ โทรคุยอย่างเดียว) ตอนคลอดลูกแล้วก็ได้โทรบอกแฟนคนที่สองด้วยเพื่อนได้ให้แฟนคนที่สองได้เจอลูกตอนลูกอายุ 1 เดือน แล้วตั้งแต่นั้นมา แฟนคนที่สองก็ได้โทรหาเพื่อนบ่อยขึ้น รวมทั้งขอให้เพื่อนไปอยู่ด้วย บอกกับเพื่อนว่าอยากอยู่กับลูก และเพื่อน แต่เพื่อนไม่กล้า เพราะติดที่ลูกคนแรก และผู้ชายคนแรกก็เริ่มทำตัวดีขึ้นมีงานทำแล้ว เพื่อนคิดว่าเค้าน่าจะมีความรับผิดชอบมากขึ้นแล้ว เพื่อนจึงอยู่กับผู้ชายคนแรกต่อไปอีก

แต่เพื่อนก็คิดผิด ถึงแม้ว่าผู้ชายคนแรกจะมีงานทำแล้วแต่ไม่สามารถมาแบ่งเบาภาระเพื่อนได้เลย เงินเค้า เค้าใช้อยู่คนเดียว ภาระจ่ายค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่านม ค่าจิปาถะเพื่อนจ่ายอยู่คนเดียว ไหนจะหนี้ที่เค้าก่อ แต่เพื่อนเราเป็นคนจ่าย เพราะคนกู้ก็คือเพี่อน จนเพื่อนรู้สึกท้อ จนมาวันนึงที่แฟนคนแรกเอาเงินค่าเช่าห้องไปเล่นการพนัน แล้วเสีย จึงไม่มีเงินจ่ายค่าห้อง เค้าก็เงียบไว้ไม่ยอมบอกเพื่อน กว่าจะมาบอกเพื่อนก็เลยวันจ่ายไปเป็นอาทิตย์แล้ว เพื่อนก็ต้องไปหาเงินมาจ่ายค่าห้องอีก แต่มันก็ยังซ้ำเดิม มันไม่ยอมเอาไปจ่ายเจ้าของห้อง แต่มาบอกเพื่อนเราว่าจ่ายแล้ว เพื่อนมารู้อีกทีว่าไม่ได้จ่ายก็ปาไปสิ้นเดือนที่เจ้าของห้องโทรมาแจ้งให้จ่ายค่าห้องด้วย 2 เดือน คือเดือนนี้กับเดือนที่แล้ว ตอนนี้เราสงสารเพื่อนเรามาก เงินเดือนออกมาก็ไม่ได้ใช้ต้องเอามาจ่ายค่าห้องเกือบหมด ส่วนมันก็ไม่ได้สำนึกอะไรเลย

มาถึงตรงนี้เพื่อนเราหมดความอดทนแล้ว เพื่อนเราคิดว่าอยู่กับมันต่อไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เงินกินข้าวก็แทบจะไม่มี อยู่แบบนี้ได้อดตายกันหมด เพื่อนเราจึงตัดสินใจที่จะไปอยู่กับผู้ชายคนที่สองโดยเอาลูกคนที่สอง ที่เป็นลูกของผู้ชายคนที่สองไปด้วย เพื่อนเรากลัวผู้ชายคนที่สองรับไม่ได้จึงไม่ได้เอาลูกคนแรกไปด้วยค่ะ (แต่พอได้มาอยู่ด้วยกันแล้ว เพื่อนก็ได้บอกผู้ชายคนที่สองแล้วค่ะ ว่ามีลูกอีกคนอยู่ แล้วผู้ชายคนที่สองก็อนุญาตให้เพื่อนพาลูกคนแรกมาอยู่ด้วยได้ แต่เพื่อนก็ไม่ได้พามาอยู่ด้วยค่ะ เพราะผู้ชายคนแรกที่เป็นพ่อเด็กไม่ยอม เค้าขอเอาลูกไว้ค่ะ) เราขอไม่เล่าความเป็นไประหว่างการออกมาจากชีวิตผู้ชายคนแรก แล้วมาอยู่กับผู้ชายคนที่สองนะคะ มันยาวค่ะ เอาเป็นว่าตอนนี้เพื่อน และผู้ชายคนที่สอง และลูก ได้อยู่ด้วยกันแล้วค่ะ แล้วผู้ชายคนที่สองก็รักลูก และ เพื่อนมาก ดูแลอย่างดี เราเองก็ดีใจกับเพื่อนด้วยที่ได้กินข้าวครบสามมื้อ ลูกก็ได้กินอิ่ม มีที่เรียน

แต่ตอนนี้ปัญหาของเพื่อนก็คือชื่อพ่อเด็กในสูติบัตร เป็นชื่อของผู้ชายคนแรก ซึ่งเพื่อนได้เคยโทรไปถามที่เขตแล้วว่าสามารถเปลี่ยนชื่อบิดาได้หรือไม่ ทางเขตแจ้งมาว่าได้แต่ ตัวแม่จะต้องถูกดำเนินคดี ข้อหาแจ้งความเท็จ และเป็นคดีอาญา มีโทษทั้งจำ และปรับ
แต่ว่าในทะเบียนบ้านได้มีการแก้ไขชื่อบิดา ให้เป็นชื่อของผู้ชายคนที่สองแล้ว ส่วนตัวเด็กก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ และเปลี่ยนนามสกุลมาเป็นของผู้ชายคนที่สองแล้ว ตอนนี้ติดก็ตรงชื่อพ่อเด็กในใบสูติบัตรเท่านั้น

เลยอยากจะถามผู้ที่รู้กฏหมายค่ะว่า คดีอาญา ข้อหาแจ้งความเท็จ มีโทษจำคุกเท่าไร และปรับเท่าไร หรือมีทางออกอื่นหรือไม่ ต้องทำอย่างไรบ้าง เราไม่อยากให้เพื่อนเราต้องติดคุกค่ะ เท่านี้เพื่อนก็ลำบากมามากแล้ว แล้วเด็กก็ยังเล็กและติดแม่ด้วย