เคยทำธุรกิจขายหวย ปล่อยเงินกู้  ตั้งแต่ปี 48 -52 ธุรกิจล่ม  ชักชวนเพื่อนร่วมงาน  , คนสนิทกันมาร่วมลงทุนโดยจ่ายดอกเบี้ยให้สูง คนทยอยมาลงทุนเพิ่มเป็น  15 คน ( ทะยอยมาร่วมทุน ) แต่ ละคนสนิทกัน และได้รับเงินดอกเบี้ยทุกเดือน  ไม่เคยขาด จนปี 52 พิษเศรษฐกิจหมดตัว หาเงินมาจ่ายไม่ไหว เจ้าหนี้แจ้งความฟ้องหาว่าฉ้อโกงทรัพย์   รวมเป็นเงิน 7 ล้านบาท  ตัดสินใจกู้เงินสหกรณ์ใช้หนี้ 1 ราย  เหลือ 14 ราย  ตอนนี้กำลังถูกฟ้องข้อห้าฉ้อโกงทรัพย์   เจรจาที่โรงพักแล้วว่าจะชำระให้เพียงแต่ขอเวลา  เพราะปีหน้าก็จะกู้ให้อีก 1 ล้าน     แต่ทุกคนไม่ยอมจะเอาผิด / หรือให้หาเงินมาชำระทันที   กลุ้มใจมาก  ดิฉันไม่คิดจะโกง แต่ขอเวลาเงินตั้งมากขนาดนั้น   ทนายความก็บอกว่าให้เวลาอีก 1 เดือน ไม่งั้นจะแจ้งความ   ลืมบอกค่ะ ช่วงแรก ปี 48-49-50-51  ธุรกิจเฟื่อฟูด้านขายหวย ปล่อยเงินกู้  เจ้าหนี้หลายรายก็เอาเงินมาเพิ่ม และคนก็มาขอลงทุนด้วยมากขึ้นจนเป็น 15 ราย และได้รับค่าตอบแทนดอกเบี้ยโดยโอนเข้าบัญชีธนาคารให้ไม่ได้ขาด โอนไป โอนมา ตลอด พอปี 52 โดนคนยืมโกง  ขายหวยคนก็ถูก  แม้จะขาดทุนหนูก็ยังต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยจนปี 52 ไม่ไหว แต่ก็ไม่ได้บอกเจ้าหนี้  เจ้าหนี้ก็ยังมีการเพิ่มทุนให้เรื่อย ๆ  จนไปไม่ไหวแล้ว  จึงบอกทุกคน

(เจรจาครั้งที่ 1 ปี 52 , เจรจาครั้งที่ 2 ปี 54 ค่ะ )ถามนะคะ   : 

1.ทนายฝ่ายเจ้าหนี้บอกว่า หนูผิดฐานโกงเจ้าหนี้ใช่หรือไม่ค่ะ

2. หนูบอกว่าหนูไม่มีเจตนาโกง  หนูขอเวลาชำระหนี้ เพราะรถยนต์หนูก็ขายชำระหนี้แล้ว 2 คัน บ้านก็มาเช่าอยู่  เหลือเพียงความเป็นข้าราชการที่สามารถกู้ยืมเงินได้ แต่ขอเวลาเท่านั้น

3. หากจะขอเจรจา มีแนวทางแบบไหนบ้างค่ะ  กลุ้มใจมากค่ะ