1. จำเลยที่ 2 เสียชีวิตแล้ว แต่จำเลยที่ 4 ยังมีชีวิตอยู่ จะต้องร่วมใช้หนี้ในจำนวนที่เท่ากันหรือไม่

ตอบ- หน้าที่ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสัญญา เช่นผู้กู้ต้องรับผิดเต็มจำนวน ส่วนผู้ค้ำประกันรับผิดตามสัญญาที่ทำไว้กับเจ้าหนี้ ซึ่งผู้ค้ำประกันบางคนทำสัญญารับผิดจำกัดจำนวนเงินเป็นต้น

ดังนั้นจึงต้องดูที่คำพิพากษาของศาลจะระบุให้จำเลยแต่ละคนรับผิดเป็นจำนวนเท่าใด

สำหรับกรณีที่คำพิพากษาให้ร่วมกันรับผิด ก็หมายถึงจำเลยทุกคนเป็นลูกหนี้ร่วมกัน ต้องรับผิดต่อเจ้าหนี้เต็มจำนวน กล่าวคือเจ้าหนี้สามารถบังคับเอากับลูกหนี้ (จำเลย) คนใดคนหนึ่งจนสิ้นเชิงได้

สำหรับลูกหนี้ที่เป็นผู้ค้ำประกันเมื่อได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ชั้นต้นไปแล้วมีสิทธิฟ้องไล่เบี้ยเอากับลูกหนี้ชั้นต้นได้เต็มจำนวน หรือฟ้องให้ผู้ค้ำประกันด้วยกันได้ในส่วนที่ผู้ค้ำประกันอื่นต้องรับผิดได้เช่นกัน

2. คดีความนี้จะมีวันหมดอายุหรือเปล่า

ตอบ-- เมื่อศาลมีคำพิพากษา เจ้าหนี้ต้องบังคับคดีภายใน 10  ปีนับแต่มีคำพิพากษาถึงที่สุดครับ

3. ทำไมถึงไม่ยึดทรัพย์ของจำเลยที่ 1 เพียงคนเดียว

ตอบ-- ถ้าจำเลยที่ 1 (ลูกหนี้ชั้นต้น) มีทรัพย์สินให้ยึดเขาก็มีสิทธิยึดจำเลยที่ 1 ได้อยู่แล้ว

4. พอจะมีทางออกใดได้บ้าง ที่จะไม่ให้สินสมรสมาเกี่ยวข้อง

ตอบ-- คู่สมรสที่ไม่ใช่ลูกหนี้ หรือจำเลย ก็ต้องไปร้องขอกันส่วนของตนกึ่งหนึ่งครับ เจ้าหนี้ยึดได้เพียงครึ่งเดียวครับ แต่ทรัพย์สินบางอย่างไม่สามารถแบ่งแยกได้จึงต้องยึดทั้งแปลงครับ

5. หลังจากได้รับเอกสารแล้วความจะทำอย่างไรดี เพราะทรัพย์สินโดยมากเป็นของคู่สมรส ที่เก็บไว้ให้ลูก

ตอบ--เป็นคำตอบที่ต้องอาศัยข้อเท็จจริงเพิ่มเติมควรโทรปรึกษาทนายความนะครับ แต่โดยหลักแล้ว เจ้าหนี้ยึดทรัพย์สินได้เฉพาะที่เป็นทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เท่านั้น หากเป็นสินสมรส คู่สมรสที่ไม่ใช่ลูกหนี้ร้องขอกันส่วนได้ตามที่ตอบไว้ตามข้อ 4

              ยินดีให้คำปรึกษากฎหมาย