ReadyPlanet.com


เช่าซื้อรถยนต์แล้วผ่อนไม่ไหวเลยคืนรถเลยโดนฟ้องควรทำอย่างไรดี


สวัสดีครับ  ขออนุญาติสอบถามครับ  พอดีผมได้เช่าซื้อรถยนต์ประมาณปี 50  แล้วไม่สามารถผ่อนชำระได้ก็เลยคืนรถยนต์ให้กับบริษัทไฟแนนท์  ต่อมาบริษัทได้ขายทอดตลาดแล้วได้เงินไม่พอเท่าที่เช่าซื้อก็เลยให้ผมชำระค่าส่วนต่างที่เหลือ  และหากไม่ชำระจะดำเนินการฟ้องศาลและบังคับคดีต่อไป  ซึ่งผมมีคำถามอยากจะขอความอนุเคราะห์ดังนี้ครับ

1.ผมทำงานอยู่ อบต.แห่งหนึ่ง  เงินเดือนผมประมาณ  14000  บาท  จะโดนอายัดใหมครับ

2.ผมแต่งงานและจดทะเบียนสมรส  และได้ซื้อที่นาแปลงหนึ่งจำนวน  1  ไร่  เป็นชื่อผมและภรรยา  นาแปลงนี้ก็จะถูงยึดด้วยใช่หรือไม่ครับ

3.ผมและภรรยาได้เช่าซื้อบ้านกับการเคหะแห่งชาติ  โดยคู่สัญญาผมเป็นผู้เช่าซื้อ  และผ่อนเป็นเวลา 30  ปี  บ้านที่ผมเช่าซื้ออยู่นี่จะถูกอายัดด้วยใหมครับ

4.ภรรยาผมได้เช่าซื้อรถยนต์คันหนึ่ง  ผ่อนไปแล้ว 2 ปี  เหลือเวลาผ่อนชำระอีก 4 ปี  รถยนต์คันนี้ก็จะต้องโดนอายัดด้วยใช่หรือไม่ครับ

5.แม่ของภรรยาผมจะยกมรดกให้ภรรยาของผมนะครับ  โดยจะโอนที่่ให้ภรรยาของผม  เมื่อโอนเสร็จที่ผืนนี้ก็จะโดนยึดด้วยหรือเปล่าครับ

6.การนับเวลาบังคับคดี 10 ปี  นับตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ  แล้วอายุความการฟ้องคดีด้วยครับ

7.สืบเนื่องจากคำถามข้อ 5 เราสามารถที่จะสลักหลังหรือบันทึกแจ้งความจำนงค์ได้ใหมครับว่าหากแม่ภรรยาเสียชีวิตแล้วจะยกที่ผืนนี้ให้ภรรยาผมคนเดียวนอกเหนือจากทำเป็นพินัยกรรมนะครับ(แม่ภรรยาผมมีบุตรหลายคนครับ)

ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ  ตอนนี้ผมกับภรรยากลุ้มใจมากครับ  และทะเลาะกันทุกวันและภรรยาผมก็ขอผมหย่าด้วยครับ  ตอนนี้ผมไม่อยากหย่านะครับสงสารลูกครับ  ขอความอนุเคราะห์ให้คำแนะนำด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ 



ผู้ตั้งกระทู้ บัญชา :: วันที่ลงประกาศ 2012-07-23 10:34:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3350048)

1.ผมทำงานอยู่ อบต.แห่งหนึ่ง  เงินเดือนผมประมาณ  14000  บาท  จะโดนอายัดใหมครับ

ตอบ - เป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น ถือว่าเป็นข้ารับราชการ เงินเดือนของข้าราชการไม่อยู่ในข่ายแห่งการบังคับคดีอายัดไม่ได้ครับ 

มาตรา 286 ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่น เงินหรือสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาต่อไปนี้ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
(1) เบี้ยเลี้ยงชีพซึ่งกฎหมายกำ หนดไว้และเงินรายได้เป็นคราว ๆ อันบุคคลภายนอกได้ยกให้เพื่อเลี้ยงชีพ เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาทหรือตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควร
(2) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ บำเหน็จ เบี้ยหวัด หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ หรือลูกจ้างในหน่วยราชการ และเงินสงเคราะห์ บำนาญ หรือบำเหน็จที่หน่วยราชการได้จ่ายให้แก่คู่สมรสหรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหล่านั้น
(3) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ ค่าชดใช้ เงินสงเคราะห์ หรือรายได้อื่นในลักษณะเดียวกันของพนักงาน ลูกจ้าง หรือคนงาน นอกจากที่กล่าวไว้ใน (2) ที่นายจ้างจ่ายให้แก่บุคคลเหล่านั้น หรือคู่สมรส หรือญาติที่ยังมีชีวิตของบุคคลเหล่านั้น เป็นจำนวนรวมกันไม่เกินเดือนละหนึ่งหมื่นบาท หรือตามจำนวนที่ศาลเห็นสมควร
(4) เงินฌาปนกิจสงเคราะห์ที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้รับอันเนื่องมาแต่ความตาย ของบุคคลอื่นเป็นจำนวน ตามที่จำเป็นในการดำเนินการฌาปนกิจศพตามฐานะของผู้ตายที่ศาลเห็นสมควร ในกรณีที่ศาลเป็นผู้กำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3) ให้ศาลกำหนดให้ไม่ น้อยกว่าอัตราเงินเดือนขั้นต่ำสุดของข้าราชการพลเรือนในขณะนั้น และไม่เกินอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของข้าราชการพลเรือนในขณะนั้น โดยคำนึงถึงฐานะในทางครอบครัวของลูกหนี้ตามคำพิพากษาและจำนวนบุพการีและผู้สืบสันดาน ซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหนี้ตามคำพิพากษาด้วย
ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจออกคำสั่งอายัดตาม มาตรา 311 วรรคสอง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจกำหนดจำนวนเงินตาม (1) (3) และ (4) และให้นำความในวรรคสองมาใช้บังคับแก่การกำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3) โดยอนุโลม แต่ถ้าเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี ไม่เห็นด้วยกับจำนวนเงินที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด บุคคลดังกล่าวอาจยื่นคำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้ทราบถึงการกำหนดจำนวนเงินเช่นว่านั้น เพื่อขอให้ศาลกำหนดจำนวนเงินใหม่ได้
ในกรณีที่พฤติการณ์แห่งการดำรงชีพของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เปลี่ยนแปลงไป บุคคลตามวรรคสามจะยื่นคำร้องให้ศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดี แล้วแต่กรณี กำหนดจำนวนเงินตาม (1) และ (3) ใหม่ก็ได้
คำสั่งของศาลที่เกี่ยวกับการกำหนดจำนวนเงินตามมาตรานี้ให้อุทธรณ์ไปยังศาล
อุทธรณ์ได้และคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ให้เป็นที่สุด

2.ผมแต่งงานและจดทะเบียนสมรส  และได้ซื้อที่นาแปลงหนึ่งจำนวน  1  ไร่  เป็นชื่อผมและภรรยา  นาแปลงนี้ก็จะถูงยึดด้วยใช่หรือไม่ครับ

ตอบ - สินสมรสยึดได้ครึ่งหนึ่งที่เป็นส่วนของคุณแต่ทรัพย์สินที่ยังไม่ได้แบ่งส่วนกันเป็นของใครนั้น ต้องยึดทั้งแปลงเพื่อขายทอดตลาด ได้เงินมาเท่าใด คืนให้ภริยาครึ่งหนึ่งครับ

3.ผมและภรรยาได้เช่าซื้อบ้านกับการเคหะแห่งชาติ  โดยคู่สัญญาผมเป็นผู้เช่าซื้อ  และผ่อนเป็นเวลา 30  ปี  บ้านที่ผมเช่าซื้ออยู่นี่จะถูกอายัดด้วยใหมครับ

ตอบ - ถ้าข้อมูลของคุณถูกต้อง กล่าวคือซื้อบ้านตามสัญญาเช่าซื้อ บ้านดังกล่าวจะยึดยังไม่ได้ เพราะบ้านยังเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ให้เช่าซื้อ ไม่เหมือนกรณีที่นำบ้านไปจำนองธนาคาร ซึ่งการจำนองกรรมสิทธิ์ในบ้านโอนเป็นของผู้จำนองแล้ว(ลูกหนี้) ดังนั้นในกรณีติดจำนองเจ้าหนี้ยึดขายทอดตลาดได้ครับ แต่บ้านที่ยังเช่าซื้ออยู่ยึดไม่ได้ครับ แต่อาจอายัดสิทธิเรียกร้องในสัญญาเช่าซื้อได้นะครับ

4.ภรรยาผมได้เช่าซื้อรถยนต์คันหนึ่ง  ผ่อนไปแล้ว 2 ปี  เหลือเวลาผ่อนชำระอีก 4 ปี  รถยนต์คันนี้ก็จะต้องโดนอายัดด้วยใช่หรือไม่ครับ

ตอบ - เป็นกรณีเดียวกันกับคำตอบข้อ 3.

5.แม่ของภรรยาผมจะยกมรดกให้ภรรยาของผมนะครับ  โดยจะโอนที่่ให้ภรรยาของผม  เมื่อโอนเสร็จที่ผืนนี้ก็จะโดนยึดด้วยหรือเปล่าครับ

ตอบ - การยึด หรืออายัดทรัพย์สินนั้นจะกระทำได้กับลูกหนี้ตามคำพิพากษาเท่านั้น ดังนั้นภริยาของคุณไม่ใช่ลูกหนี้ แม้จะจดทะเบียนสมรสกับคุณเจ้าหนี้จะยึดทรัพย์สินของภริยาคุณไม่ได้ครับ

6.การนับเวลาบังคับคดี 10 ปี  นับตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ  แล้วอายุความการฟ้องคดีด้วยครับ

ตอบ - ระยะเวลาในการบังคับคดีคือ 10 ปี นับตั้งแต่คดีถึงที่สุดครับ ส่วนการฟ้องคดีมีอายุความในหลายกรณี ถ้าเป็นการฟ้องเรียกส่วนต่างการขายรถยนต์ได้เงินไม่พอชำระหนี้มีอายุความ 10 ปี ครับ

7.สืบเนื่องจากคำถามข้อ 5 เราสามารถที่จะสลักหลังหรือบันทึกแจ้งความจำนงค์ได้ใหมครับว่าหากแม่ภรรยาเสียชีวิตแล้วจะยกที่ผืนนี้ให้ภรรยาผมคนเดียวนอกเหนือจากทำเป็นพินัยกรรมนะครับ(แม่ภรรยาผมมีบุตรหลายคนครับ)

ตอบ - คำถามข้อนี้ไม่ค่อยเข้าใจครับ แม่ยายต้องการยกที่ดินให้ภริยาคุณเมื่อตายก็ต้องทำพินัยกรรมครับ จะหลักหลังตามที่คุณพูดถึงก็คือการโอนมาเลยครับ ซึ่งคำตอบข้อ 5 ก็บอกว่าเจ้าหนี้ยึดไม่ได้อยู่แล้วครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-11-08 20:16:33



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล