

ลูกจ้างส่งภาพโป๊ลามกอนาจารในเวลาทำงาน ลูกจ้างส่งภาพโป๊ลามกอนาจารในเวลาทำงาน นายจ้างไล่ออกลูกจ้างใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของจายจ้างส่งภาพโป๊ลามกอนาจารไปให้เพื่อร่วมงาน นายจ้างไล่ออกโดยไม่จ่ายค่าชดเชย ต่อมาพนักงานตรวจแรงงานมีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง นายจ้างจึงไปฟ้องต่อศาลแรงงานให้เพิกถอนคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงาน ศาลแรงงานพิพากษายกฟ้อง คดีนี้ศาลฎีกา เห็นว่าพฤติการณ์แห่งการกระทำของลูกจ้างยังไม่ถึงกับเป็นกรณีร้ายแรง นายจ้างจะเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้ก็ต่อเมื่อได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว แม้ ส. จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์เพื่อการส่วนตัวแจกจ่ายไปยังเพื่อนร่วมงานเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของโจทก์และรูปถ่ายที่จัดส่งไปเป็นภาพโป๊ลามกอนาจารซึ่งไม่เหมาะสม แต่เมื่อผู้รับก็ทราบว่าผู้ที่ส่งมาคือ ส. กระทำในนามส่วนตัว มิใช่กระทำในนามบริษัทโจทก์ ความเสื่อมเสียโดยตรงก็น่าจะตกแก่ ส. เอง ไม่เกิดผลกระทบต่อโจทก์มากนัก พฤติการณ์แห่งการกระทำของ ส. จึงยังไม่ถึงกับเป็นกรณีร้ายแรง โจทก์จะเลิกจ้าง ส. โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้ก็ต่อเมื่อโจทก์ได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว ทั้งยังถือไม่ได้ว่า ส. ตั้งใจก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงไม่เป็นการจงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันจะทำให้โจทก์เลิกจ้าง ส. ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยอีกเช่นกัน ศาลแรงงานภาค 1 พิพากษายกฟ้อง ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ ที่ศาลแรงงานภาค 1 พิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบหรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า การที่นายสังวาลย์ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์ส่งภาพโป๊ลามกอนาจารในเวลาทำงานไปยังที่อยู่หลายที่ ทั้งในบริษัทโจทก์และนอกบริษัทโจทก์เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 จึงเป็นกรณีความผิดร้ายแรงตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 119 (2) อีกทั้งเป็นการเบียดบังเวลาทำงานและในการจัดส่งข้อมูลจะปรากฏหลักฐานชื่อผู้ส่งและที่ทำการส่ง จำเลยย่อมเล็งเห็นความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นแก่โจทก์ ทำให้เกิดความเสียหายอยู่ในตัว จึงเป็นการจงใจทำให้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างได้รับความเสียหาย เป็นกรณีตามมาตรา 119 (4) อีกด้วย โจทก์จึงไม่จำต้องจ่ายค่าชดเชยให้แก่นายสังวาลย์ ที่ศาลแรงงานภาค 1 วินิจฉัยว่า ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งของจำเลยและพิพากษายกฟ้องจึงไม่ถูกต้อง เห็นว่า การกระทำอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ดังที่อ้างจะต้องกระทำไปเพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้าตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 287 (1) หรือเป็นการประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าตาม (2) หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดตาม (3) ศาลแรงงานภาค 1 ฟังข้อเท็จจริงว่า นายสังวาลย์ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นภาพโป๊ลามกอนาจารไปยังเพื่อนร่วมงานและบุคคลภายนอกซึ่งเป็นลูกค้าของโจทก์ ไม่ได้ฟังข้อเท็จจริงไปถึงว่านายสังวาลย์กระทำไปเพื่อประสงค์แห่งการค้าหรือโดยการค้า ประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าหรือโฆษณาหรือไขข่าวว่ามีบุคคลกระทำการอันเป็นความผิดดังกล่าว ข้อเท็จจริงที่รับฟังมาจึงยังไม่ชัดว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ดังที่โจทก์อุทธรณ์แม้นายสังวาลย์จะใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์เพื่อการส่วนตัวแจกจ่ายไปยังเพื่อนร่วมงานเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของโจทก์และรูปถ่ายที่จัดส่งไปเป็นภาพโป๊ลามกอนาจารซึ่งไม่เหมาะสม แต่เมื่อผู้รับก็ทราบว่าผู้ที่ส่งมาคือนายสังวาลย์กระทำในนามส่วนตัว มิใช่กระทำในนามบริษัทโจทก์ ความเสื่อมเสียโดยตรงก็น่าจะตกแก่นายสังวาลย์เอง ไม่เกิดผลกระทบต่อโจทก์มากนัก พฤติการณ์แห่งการกระทำของนายสังวาลย์จึงยังไม่ถึงกับเป็นกรณีร้ายแรง โจทก์จะเลิกจ้างนายสังวาลย์โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้ก็ต่อเมื่อโจทก์ได้ตักเตือนเป็นหนังสือแล้ว เมื่อโจทก์ยังไม่เคยตักเตือนเป็นหนังสือจึงไม่เป็นกรณีที่จะเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามมาตรา 119 (4) ทั้งลำพังเพียงข้อเท็จจริงที่ว่านายสังวาลย์ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโจทก์ส่งภาพโป๊ลามกอนาจารในเวลาทำงานไปยังเพื่อนร่วมงานและบุคคลภายนอกในนามส่วนตัวก็ยังถือไม่ได้ว่านายสังวาลตั้งใจก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ จึงไม่เป็นการจงใจทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายอันจะทำให้โจทก์เลิกจ้างนายสังวาลย์ได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามมาตรา 119 (2) อีกเช่นกัน ที่ศาลแรงงานภาค 1 ไม่เพิกถอนคำสั่งของจำเลยโดยยกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน |