ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




สัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญากู้ยืมเงิน

บิดา มารดา และบุตร ทนาย อาสา ปรึกษา เรื่อง อำนาจปกครองบุตร ฟรี

 

เพิ่มเพื่อนไลน์แชทกับทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

 

ติดต่อเรา โทร. 085-9604258 

 

สัญญาขายฝากเป็นนิติกรรมอำพรางสัญญากู้ยืมเงิน

การกู้ยืมเงินกันโดยผู้กู้ได้ทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้ให้ผู้ให้กู้และสัญญาขายฝากกำหนดสินไถ่ไว้สูงเกินกว่าต้นเงินกู้ที่ได้รับจริงเป็นนิติกรรมอำพรางนิติกรรมการกู้ยืมเงินจึงตกเป็นโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคหนึ่ง สัญญาขายฝากไม่สามารถบังคับได้ แต่ต้องบังคับตามนิติกรรมการกู้ยืมเงินที่ถูกอำพรางไว้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคสอง ให้ถือว่าสัญญาขายฝากเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงิน ศาลชอบที่จะเพิกถอนการขายฝากโดยผู้ให้กู้ยังคงยึดถือโฉนดที่ดินจนกว่าจะได้รับชำระหนี้เงินกู้และดอกเบี้ยครบถ้วน
     
คำพิพากษาศาลฎีกาที่  4686/2552

          เมื่อสัญญาขายฝากที่ดินเป็นนิติกรรมอำพรางนิติกรรมการกู้ยืมเงินจึงเป็นนิติกรรมที่ตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคหนึ่ง จำเลยจะขอให้บังคับโจทก์ทั้งสองชำระเงินตามราคาขายฝากที่ดินเป็นต้น เงินกู้ไม่ได้ แต่ต้องบังคับตามนิติกรรมการกู้ยืมเงินที่ถูกอำพรางไว้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 155 วรรคสอง โดยถือเพียงว่าสัญญาขายฝากที่ดินเป็นหลักฐานว่าโจทก์ทั้งสองได้กู้ยืมเงินจากจำเลย และโจทก์ทั้งสองได้มอบโฉนดที่ดินของตนให้จำเลยยึดถือไว้เป็นหลักประกันเงินกู้เท่านั้น สำหรับการขายฝากที่ดินระหว่างโจทก์ทั้งสองและจำเลยเมื่อตกเป็นโมฆะดังวินิจฉัยแล้ว ศาลชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนเสียได้โดยจำเลยยังคงยึดถือโฉนดที่ดินของโจทก์ทั้งสองไว้ได้จนกว่าโจทก์ทั้งสองจะชำระเงินกู้และดอกเบี้ยแก่จำเลยครบถ้วน

โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้พิพากษาว่า สัญญาขายฝากเป็นโมฆะ ให้จำเลยรับชำระหนี้เงินกู้ต้นเงินจำนวน 1,200,000 บาท ดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี เป็นเวลา 8 เดือน รวมเป็นเงินจำนวน 1,260,000 บาท จากโจทก์ทั้งสอง ให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากที่ดินดังกล่าว และมอบโฉนดที่ดินคืนแก่โจทก์ทั้งสอง หากจำเลยไม่ยอมจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝาก ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

          จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับชำระหนี้จากโจทก์ทั้งสองเป็นเงินจำนวน 1,065,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 26 กันยายน 2540 จนถึงวันที่ 25 กันยายน 2541 และให้จำเลยจดทะเบียนไถ่ถอนการขายฝากที่ดินโฉนดเลขที่ 25867 และ 22233 ตำบลหาดนางแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 5,000 บาท ข้อหาอื่นให้ยก (ที่ถูก คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก)

          จำเลยอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
          จำเลยฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยมิได้โต้แย้งกันในชั้นฎีกาฟังเป็นยุติว่า โจทก์ทั้งสองทำสัญญาขายฝากที่ดินโฉนดเลขที่ 25867 และ 22233 ตำบลหาดทรายแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ของโจทก์ที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับไว้แก่จำเลย ตามสัญญาขายฝากที่ดิน เพื่ออำพรางนิติกรรมการกู้ยืมเงินซึ่งโจทก์ทั้งสองกู้ยืมจากจำเลย

          จำเลยฎีกาข้อแรกว่า เมื่อโจทก์ทั้งสองและจำเลยกู้ยืมเงินกันโดยถือเอาสัญญาขายฝากที่ดิน เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม จึงต้องถือเอาจำนวนเงินตามสัญญาขายฝากที่ดินซึ่งระบุจำนวนเงินที่ตกลงขายฝากกันแปลงละ 900,000 บาท เป็นต้นเงินกู้ที่โจทก์ทั้งสองจะต้องชำระให้แก่จำเลยนั้น เมื่อสัญญาขายฝากที่ดินเป็นนิติกรรมอำพรางนิติกรรมการกู้ยืมเงินระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยสัญญาขายฝากที่ดินจึงเป็นนิติกรรมที่ตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคหนึ่ง จำเลยจะขอให้บังคับโจทก์ทั้งสองชำระเงินตามราคาขายฝากที่ดินแปลงละ 900,000 บาท เป็นต้นเงินกู้ไม่ได้ แต่ต้องบังคับตามที่โจทก์ทั้งสองและจำเลยมีเจตนาจะผูกพันในนิติกรรมการกู้ยืมเงินที่ถูกอำพรางไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 155 วรรคสอง โดยถือเพียงว่าสัญญาขายฝากที่ดินเป็นหลักฐานว่าโจทก์ทั้งสองได้กู้ยืมเงินจากจำเลย และโจทก์ทั้งสองได้มอบโฉนดที่ดินของตนให้จำเลยยึดถือไว้เป็นหลักประกันเงินกู้เท่านั้น สำหรับการกู้ยืมเงินซึ่งเป็นนิติกรรมที่ถูกอำพรางนั้น ศาลล่างทั้งสองรับฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทั้งสองกู้เงินจำเลยเพียง 1,065,000 บาท เท่าที่จำเลยส่งมอบให้ตามบันทึกของสามีจำเลย จำเลยมิได้ฎีกาโต้แย้งว่า บันทึกของสามีจำเลยไม่ถูกต้องอย่างไร คงฎีกาขอให้โจทก์ทั้งสองชำระเงินเพิ่มอีก 735,000 บาท เพื่อให้ครบยอดเงิน 1,800,000 บาท ซึ่งเป็นราคาขายฝากที่ดินทั้งสองแปลงในสัญญาขายฝากที่ดิน เมื่อข้อเท็จจริงยุติแล้วว่าสัญญาขายฝากที่ดินดังกล่าวเป็นนิติกรรมอำพราง ราคาขายฝากตามสัญญาขายฝากที่ดินดังกล่าวจึงไม่ใช่จำนวนเงินที่ศาลจะบังคับให้โจทก์ทั้งสองชำระแก่จำเลยได้ โจทก์ทั้งสองคงต้องรับผิดชำระเงินเท่าที่กู้ยืมจากจำเลย 1,065,000 บาท เท่านั้น ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น สำหรับการขายฝากที่ดินระหว่างโจทก์ทั้งสองและจำเลยเมื่อตกเป็นโมฆะดังวินิจฉัยแล้วก็ชอบที่จะพิพากษาให้เพิกถอนเสีย

          ที่จำเลยฎีกาข้อสุดท้ายในปัญหาเรื่องดอกเบี้ยว่า จำเลยไม่เห็นพ้องด้วยที่ศาลล่างทั้งสองให้โจทก์ทั้งสองชำระดอกเบี้ยเพียงถึงวันที่ 25 กันยายน 2541 นั้นในปัญหาดังกล่าวศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2541 อันเป็นวันที่โจทก์ทั้งสองขอปฏิบัติการชำระหนี้ โจทก์ทั้งสองได้เตรียมตั๋วแลกเงินพร้อมชำระหนี้ทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยครบถ้วนตามนิติกรรมการกู้ยืมเงินแต่จำเลยไม่ยอมรับชำระหนี้ในวันที่โจทก์ทั้งสองกำหนด โดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ จำเลยในฐานะเจ้าหนี้ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัด โจทก์ทั้งสองจึงต้องชำระดอกเบี้ยจนถึงวันที่จำเลยผิดนัดเท่านั้น

          พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยรับชำระหนี้จากโจทก์ทั้งสองเป็นเงิน 1,065,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 26 กันยายน 2540 ถึงวันที่ 25 กันยายน 2541 และให้เพิกถอนนิติกรรมการขายฝากที่ดินโฉนดเลขที่ 25867 และ 22233 ตำบลหาดแก้ว อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ระหว่างโจทก์ทั้งสองกับจำเลยเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2541 แต่ยังคงให้จำเลยยึดโฉนดที่ดินดังกล่าวไว้จนกว่าโจทก์ทั้งสองจะชำระเงินและดอกเบี้ยดังกล่าวแก่จำเลยครบถ้วน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ นอกจากที่แก้คงเป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

เพิ่มเพื่อนไลน์ QR CODE

 

QR CODE 




คำพิพากษาฎีกาทั่วไป

ความผิดทางอาญาในการใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่น
นิติบุคคลเชิดกรรมการเป็นตัวแทนทำหนังสือมอบอำนาจไม่ประทับตราสำคัญ
อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง
ต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสองคนจึงเป็นองค์คณะ
อัตราโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทเกินอำนาจศาลแขวงพิจารณาพิพากษา
ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
อายัดเงินฝากในบัญชี หลักประกันขอปล่อยตัวชั่วคราว
เพิกถอนนิติกรรมซื้อขายที่ดินสินสมรส
บุริมสิทธิพิเศษเหนือสังหาริมทรัพย์
ครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของตนเอง
อำนาจการควบคุมตัวผู้ต้องหาของพนักงานสอบสวน
ไม่ได้บรรยายฟ้องว่ากระทำโดยพลาด
ผู้พิพากษาคนเดียวลงโทษจำคุก 8 เดือนได้หรือไม่?
กฎหมายเดิมยกเลิกไปแล้วลงโทษได้หรือไม่?
หากปรากฏว่าคดีก่อนเป็นการฟ้องร้องดำเนินคดีอย่างสมยอมกันสิทธิฟ้องคดีอาญาไม่ระงับ
หลอกลวงผู้เสียหายให้ขายดาวน์รถยนต์
คำสั่งรับฎีกาของจำเลยไม่ชอบ
ผู้เช่าซื้อมีอำนาจแจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอกได้
ไม่มีเจตนาเล่นการพนันด้วยจึงเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย
ทารกในครรภ์มารดาสามารถมีสิทธิต่าง ๆ ได้
คำแถลงการณ์ปิดคดีในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง
การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด
บุคคลล้มละลายมีอำนาจฟ้องคดีอาญา
เรียกโฉนดที่ดินคืนจากเจ้าหนี้เงินกู้ยืม
ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย
พ.ร.บ.ล้างมลทิน กับการเพิ่มโทษจำเลย
พรบ- ล้างมลทินไม่อาจมีผลย้อนหลังได้
สเปรย์พริกไทยไม่เป็นอาวุธโดยสภาพ
รับเงินไปโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้
จำเลยให้การรับสารภาพแต่ศาลยกฟ้อง
การนับอายุของบุคคลให้เริ่มนับแต่วันเกิด
ร้องสภาทนายความจัดระเบียบ-ทนายความทวงหนี้
เช็คที่มีผู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงในข้อสำคัญ-แก้ไขวันที่
ความผิดยาเสพติดให้ศาลลงโทษจำคุกและปรับด้วยเสมอ
หนี้ที่ต้องห้ามเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้
ร้านอาหารเปิดเพลงMP3ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
ลูกจ้างจะต้องเลือกใช้สิทธิทางใดทางหนึ่ง ทางศาลแรงงาน หรือพนักงานตรวจแรงงาน
การฟ้องคดีล้มละลาย ข้อสันนิษฐานของกฎหมาย
ร้านอินเทอร์เน็ตและเกมส์ลงเพลงละเมิดลิขสิทธิ์ในคอมพิวเตอร์
เจ้าของรวมจะเรียกให้แบ่งทรัพย์สินในเวลาที่ไม่เป็นโอกาสอันควรไม่ได้
ลูกจ้างได้รับประโยชน์ไม่เป็นการที่ต้องรับภาระมากกว่าที่พึงคาดหมายได้
การยื่นฎีกาเกี่ยวกับคดียาเสพติด
ฟ้องร้องคดีในลักษณะสมยอม
ลงลายมือชื่อรับรองคนต่างด้าว
ร้านอาหารตามสั่งเปิดแผ่นวีซีดีแพลงให้ลูกค้าฟัง
ฟ้องบุคคลล้มละลายเป็นคดีแพ่ง
ผู้ใหญ่บ้านถูกจับยาเสพติดมีโทษจำคุก 3 เท่า
เมาแล้วขับจำคุก 3 ปี โจทก์อ้างบทกฎหมายไม่ครบถ้วน
ศาลมีคำสั่งเป็นคนสาบสูญถือว่าถึงแก่ความตาย-เงินฌาปนกิจ
ทนายความละเมิดอำนาจศาล
สามีภริยาจดทะเบียนหย่ากันเพื่อประโยชน์ในการเสียภาษี