

ทายาทถูกตัดไม่ให้รับมรดก ทายาทถูกตัดไม่ให้รับมรดก การปฏิบัติหน้าที่ราชการนอกสถานที่ในวันหยุดราชการถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยชอบแล้ว เมื่อเจ้ามรดกทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกต่อหน้าเจ้าหน้าที่จึงมีผลทันทีแม้ผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกจะตายก่อนเจ้ามรดกก็ตาม เจตนาตัดมิให้รับมรดกของเจ้ามรดกดังกล่าวทำให้ผู้ที่ถูกตัดไม่ให้รับมรดกสิ้นสุดการเป็นทายาทของเจ้ามรดกทันที มีผลทำให้ทายาทของผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกหมดสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่ตามมาตรา 1639 ถึง 1645 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คำพิพากษา ศาลฎีกาที่ 178/2520 การปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้อง ทำในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้วพนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติ ราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนใน วันหยุดราชการเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผนก็ ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่น นี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายการที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไป ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผล บังคับได้ตามกฎหมาย ท. มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท. จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท. จึงไม่มีที่(ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตรา ใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรม ที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดกจึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายหาใช่จะมีผลต่อ เมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยชอบธรรมไม่ใช่พินัยกรรมส่วนการที่การแสดงเจตนาตาม หนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก การปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้อง ทำในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้วพนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติ ราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนใน วันหยุดราชการเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผนก็ ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่น นี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายการที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไป ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผล บังคับได้ตามกฎหมาย ท. มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท. จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท. จึงไม่มีที่(ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตรา ใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรม ที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดกจึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายหาใช่จะมีผลต่อ เมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยชอบธรรมไม่ใช่พินัยกรรมส่วนการที่การแสดงเจตนาตาม หนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนางทิน แดงขวัญทอง เป็นบุตรนางเส้ง พุ่มคงนางเส้งได้ทำหนังสือตัดทายาทมิให้นางทินมีสิทธิรับมรดก ต่อมานางเส้งถึงแก่กรรม โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินมรดกของนางเส้งแต่ผู้เดียวตลอดมาโดยเจตนาเป็น เจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยเป็นเวลาปีเศษแล้ว ทรัพย์มรดกรายนี้จึงเป็นของโจทก์แต่ผู้เดียวทางอายุความ จำเลยได้ไปยื่นขอรับมรดกของนางเส้ง โจทก์จึงไปคัดค้านไม่ยอมแบ่งให้จำเลย ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยถอนการขอรับมรดกของนางเส้ง พุ่มคง ของจำเลยที่ยื่นไว้ต่อเจ้าพนักงานที่ดินหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำ พิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การว่า หนังสือตัดทายาทโดยธรรมตามฟ้องไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะนางทินมารดาจำเลยตายก่อนนางเส้งเจ้ามรดกและไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้เป็น พิเศษ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่มารดาของจำเลยได้ เจ้ามรดกพิมพ์ลายนิ้วมือโดยไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน และไม่ได้พิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ในหนังสือตัดทายาทโดยธรรมจะระบุว่าทำต่อหน้านายสุพจน์ลิมปกาญจน์ ปลัดอำเภอตรี แทนนายอำเภอสวีก็ดีก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างโดยนายอำเภอสวีไม่ได้มอบหมายให้ ไปทำแทน วันที่ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมเป็นวันหยุดราชการ และหนังสือดังกล่าวทำนอกสถานที่ที่ว่าการอำเภอสวีนายสุพจน์จึงไม่ใช่พนักงาน เจ้าหน้าที่ตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หนังสือตัดทายาทโดยธรรมไม่ได้ทำหรือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การมอบหนังสือนี้จะต้องกระทำในวันเปิดสถานที่ราชการ การทำและการมอบหนังสือตัดทายาทฝ่าฝืนกฎหมาย กฎกระทรวงและระเบียบ นายสุพจน์ ไม่มีฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่มีสิทธิใช้ดวงตราประจำตำแหน่งนายอำเภอสวี เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมแล้ว จำเลยได้ครอบครองที่พิพาททุกแปลงฝ่ายเดียวคดีโจทก์ขาดอายุความ ที่ดินพิพาทเป็นสินบริคณห์ระหว่างนายเทียมกับนางเส้ง นางเส้งไม่มีสิทธิทำพินัยกรรมหรือทำหนังสือตัดมรดกเกินกว่าส่วนของตน ก่อนสืบพยาน โจทก์ ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ โจทก์ว่าเอกสารตัดทายาทโดยธรรมและใบเสร็จรับเงินได้ทำและออกให้ที่บ้านเจ้า มรดกในวันหยุดราชการนายสุพจน์ปลัดอำเภอสวีไปทำให้ตามที่ฝ่ายเจ้ามรดกขอ ศาลชั้นต้นสอบจำเลยจำเลยต่อสู้ว่านายสุพจน์ไม่อยู่ในฐานะเจ้าพนักงานตาม กฎหมาย หลังจากสืบพยานโจทก์ได้ 3 ปาก โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยคดีไปโดยไม่ต้องสืบพยานตามข้อตกลงดังนี้ 1. หนังสือตัดมิให้ได้รับมรดกของเจ้ามรดกเป็นการกระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือ ไม่ เพราะเจ้ามรดกขอให้เจ้าพนักงานไปทำให้ที่บ้านในวันหยุดราชการ 2. ถ้าหนังสือตามข้อ 1. มีผลบังคับได้ตามกฎหมายเพราะผู้ถูกตัดตายก่อนเจ้ามรดก จะมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่หรือไม่ 3. ถ้าหากจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ตามข้อ 2. หรือหนังสือตัดมิให้รับมรดกตามข้อ 1. ไม่มีผลบังคับ โจทก์ยอมแบ่งที่พิพาททั้งหมดให้จำเลยกึ่งหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยได้สละข้อต่อสู้เดิมทั้งหมดแล้วตามที่ได้ตกลงกัน ปลัดอำเภอผู้ไปทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมให้เจ้ามรดกนั้นแม้จะไปทำในวันหยุด ราชการ ก็ได้ชื่อว่าเป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หนังสือตัดทายาทจึงมีผลใช้ได้หนังสือตัดทายาทโดยธรรมเป็นเจตนาอันแน่วแน่ของ เจ้ามรดก นางทินมารดาจำเลยจึงถูกตัดจากฐานะที่จะเป็นทายาทตั้งแต่วันทำหนังสือตัด ทายาทโดยธรรมทันที แม้มารดาจำเลยจะสิ้นชีพไปก่อนเจ้ามรดกก็ไม่ทำให้เจตนาของเจ้ามรดกไร้ผล จำเลยในฐานะผู้รับมรดกแทนที่มารดาย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่ามารดาผู้เสวยสิทธิ โดยตรง จำเลยไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่มารดา เพราะไม่มีที่จะให้รับแทนเสียแล้ว พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ตามกฎหมาย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยถอนการรับมรดกของนางเส้ง พุ่มคง ที่ยื่นไว้ต่ออำเภอสวี หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า เอกสารหนังสือตัดทายาทโดยธรรมแม้จะทำนอกที่ว่าการอำเภอในวันหยุดราชการก็ไม่ มีกฎกระทรวงหรือระเบียบห้ามไว้ ถือได้ว่านายสุพจน์ได้ทำเอกสารดังกล่าวในฐานะผู้รักษาการแทนนายอำเภอ หนังสือมีผลใช้บังคับได้ เหตุที่จะมีการรับมรดกแทนที่กันได้จะต้องเป็นกรณีที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 1639 ถึง 1645 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งมิได้บัญญัติไว้ว่าการตัดมิให้รับมรดก นั้นให้มีการรับมรดกแทนที่ได้พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องการทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกนี้เป็น อำนาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอันการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยทั่วไป นั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับได้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้องทำในสถานที่ ราชการเท่านั้นแล้ว พนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ดัง เช่นจะเห็นได้ว่า ในกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 1672 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในข้อ 5 ก็ได้บัญญัติไว้โดยปริยายให้เห็นได้ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่อาจจะออกไปปฏิบัติ กิจตามหน้าที่ภายนอกสถานที่ได้ ส่วนเรื่องการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ ประชาชนในวันหยุดราชการ เมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้ และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผน ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบ ข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่นนี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การที่นายสุพจน์ ลิมปกาญจน์ ได้ออกไปจากอำเภอสวีไปทำเอกสารดังกล่าวในฐานะผู้รักษาการแทนนายอำเภอที่บ้าน นางเส้งในวันหยุดราชการนั้น เอกสารที่นายสุพจน์ทำย่อมเป็นหนังสือตัดมรดกมิให้นางทินรับมรดกที่ได้ทำต่อ หน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย ส่วนในกรณีที่มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้ได้รับมรดกตายเสียก่อนนางเส้งเจ้ามรดก นั้น เห็นว่าบทกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิการรับมรดกแทนที่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 หมวด 4 ตั้งแต่มาตรา 1639 ถึง 1645 มีความพอสรุปได้ว่า การที่ผู้สืบสันดานจะมีสิทธิเข้ารับมรดกแทนที่ทายาทที่แท้จริงได้นั้นมีอยู่ ด้วยกัน 2 กรณี คือกรณีที่ทายาทตามมาตรา 1629(1)(3)(4) หรือ (6) ตาย กับกรณีที่ถูกกำจัดมิให้รับมรดกดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1639 ปรากฏว่านางทินมารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกเสียแล้วตั้งแต่ก่อนนางทินตาย นางทินจึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในมาตรา 1629 อีกต่อไป นางทินจึงไม่มีที่ (ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้ และไม่มีบทกฎหมายมาตราใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การ รับมรดกของทายาทโดยธรรมที่ถูกตัดมรดกดังเช่นกรณีของจำเลยนี้ หนังสือตัดไม่ให้รับมรดก เป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดก จึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย หาใช่จะมีผลต่อเมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยธรรมไม่ใช่พินัยกรรม ส่วนการที่การแสดงเจตนาตามหนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีก เรื่องหนึ่งต่างหาก หนังสือตัดมรดกดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้หาตกไปดังเช่นเรื่องพินัยกรรมไม่ พิพากษายืน การปฏิบัติหน้าที่ราชการนอกสถานที่ในวันหยุดราชการถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยชอบแล้ว เมื่อเจ้ามรดกทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกต่อหน้าเจ้าหน้าที่จึงมีผลทันทีแม้ผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกจะตายก่อนเจ้ามรดกก็ตาม เจตนาตัดมิให้รับมรดกของเจ้ามรดกดังกล่าวทำให้ผู้ที่ถูกตัดไม่ให้รับมรดกสิ้นสุดการเป็นทายาทของเจ้ามรดกทันที มีผลทำให้ทายาทของผู้ถูกตัดมิให้รับมรดกหมดสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่ตามมาตรา 1639 ถึง 1645 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ คำพิพากษา ศาลฎีกาที่ 178/2520 การปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้อง ทำในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้วพนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติ ราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนใน วันหยุดราชการเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผนก็ ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่น นี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายการที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไป ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผล บังคับได้ตามกฎหมาย ท. มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท. จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท. จึงไม่มีที่(ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตรา ใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรม ที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดกจึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายหาใช่จะมีผลต่อ เมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยชอบธรรมไม่ใช่พินัยกรรมส่วนการที่การแสดงเจตนาตาม หนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก การปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยทั่วไปนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับไว้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้อง ทำในสถานที่ราชการเท่านั้นแล้วพนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติ ราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ และการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ประชาชนใน วันหยุดราชการเมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผนก็ ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่น นี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายการที่ปลัดอำเภอได้ออกไปจากอำเภอไป ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดก เอกสารดังกล่าวจึงเป็นหนังสือตัดมรดกที่ได้ทำต่อหน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผล บังคับได้ตามกฎหมาย ท. มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกตั้งแต่ก่อน ท.ตาย ท. จึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 อีกต่อไป ท. จึงไม่มีที่(ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้และไม่มีบทกฎหมายมาตรา ใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การรับมรดกของทายาทโดยธรรม ที่ถูกตัดมรดก หนังสือตัดไม่ให้รับมรดกเป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดกจึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นโดยถูกต้องตามกฎหมายหาใช่จะมีผลต่อ เมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยชอบธรรมไม่ใช่พินัยกรรมส่วนการที่การแสดงเจตนาตาม หนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนางทิน แดงขวัญทอง เป็นบุตรนางเส้ง พุ่มคงนางเส้งได้ทำหนังสือตัดทายาทมิให้นางทินมีสิทธิรับมรดก ต่อมานางเส้งถึงแก่กรรม โจทก์ได้เข้าครอบครองที่ดินมรดกของนางเส้งแต่ผู้เดียวตลอดมาโดยเจตนาเป็น เจ้าของด้วยความสงบและเปิดเผยเป็นเวลาปีเศษแล้ว ทรัพย์มรดกรายนี้จึงเป็นของโจทก์แต่ผู้เดียวทางอายุความ จำเลยได้ไปยื่นขอรับมรดกของนางเส้ง โจทก์จึงไปคัดค้านไม่ยอมแบ่งให้จำเลย ขอให้ศาลพิพากษาแสดงว่าทรัพย์ที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามมิให้จำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยถอนการขอรับมรดกของนางเส้ง พุ่มคง ของจำเลยที่ยื่นไว้ต่อเจ้าพนักงานที่ดินหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามก็ให้ถือเอาคำ พิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยให้การว่า หนังสือตัดทายาทโดยธรรมตามฟ้องไม่มีผลตามกฎหมาย เพราะนางทินมารดาจำเลยตายก่อนนางเส้งเจ้ามรดกและไม่มีกฎหมายใดห้ามไว้เป็น พิเศษ จำเลยจึงมีสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่มารดาของจำเลยได้ เจ้ามรดกพิมพ์ลายนิ้วมือโดยไม่มีพยานลงลายมือชื่อรับรอง 2 คน และไม่ได้พิมพ์นิ้วมือต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ในหนังสือตัดทายาทโดยธรรมจะระบุว่าทำต่อหน้านายสุพจน์ลิมปกาญจน์ ปลัดอำเภอตรี แทนนายอำเภอสวีก็ดีก็เป็นเพียงการกล่าวอ้างโดยนายอำเภอสวีไม่ได้มอบหมายให้ ไปทำแทน วันที่ทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมเป็นวันหยุดราชการ และหนังสือดังกล่าวทำนอกสถานที่ที่ว่าการอำเภอสวีนายสุพจน์จึงไม่ใช่พนักงาน เจ้าหน้าที่ตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หนังสือตัดทายาทโดยธรรมไม่ได้ทำหรือมอบไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การมอบหนังสือนี้จะต้องกระทำในวันเปิดสถานที่ราชการ การทำและการมอบหนังสือตัดทายาทฝ่าฝืนกฎหมาย กฎกระทรวงและระเบียบ นายสุพจน์ ไม่มีฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่มีสิทธิใช้ดวงตราประจำตำแหน่งนายอำเภอสวี เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่กรรมแล้ว จำเลยได้ครอบครองที่พิพาททุกแปลงฝ่ายเดียวคดีโจทก์ขาดอายุความ ที่ดินพิพาทเป็นสินบริคณห์ระหว่างนายเทียมกับนางเส้ง นางเส้งไม่มีสิทธิทำพินัยกรรมหรือทำหนังสือตัดมรดกเกินกว่าส่วนของตน ก่อนสืบพยาน โจทก์ ศาลชั้นต้นสอบโจทก์ โจทก์ว่าเอกสารตัดทายาทโดยธรรมและใบเสร็จรับเงินได้ทำและออกให้ที่บ้านเจ้า มรดกในวันหยุดราชการนายสุพจน์ปลัดอำเภอสวีไปทำให้ตามที่ฝ่ายเจ้ามรดกขอ ศาลชั้นต้นสอบจำเลยจำเลยต่อสู้ว่านายสุพจน์ไม่อยู่ในฐานะเจ้าพนักงานตาม กฎหมาย หลังจากสืบพยานโจทก์ได้ 3 ปาก โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยคดีไปโดยไม่ต้องสืบพยานตามข้อตกลงดังนี้ 1. หนังสือตัดมิให้ได้รับมรดกของเจ้ามรดกเป็นการกระทำต่อหน้าเจ้าพนักงานหรือ ไม่ เพราะเจ้ามรดกขอให้เจ้าพนักงานไปทำให้ที่บ้านในวันหยุดราชการ 2. ถ้าหนังสือตามข้อ 1. มีผลบังคับได้ตามกฎหมายเพราะผู้ถูกตัดตายก่อนเจ้ามรดก จะมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่หรือไม่ 3. ถ้าหากจำเลยมีสิทธิได้รับมรดกแทนที่ตามข้อ 2. หรือหนังสือตัดมิให้รับมรดกตามข้อ 1. ไม่มีผลบังคับ โจทก์ยอมแบ่งที่พิพาททั้งหมดให้จำเลยกึ่งหนึ่ง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า จำเลยได้สละข้อต่อสู้เดิมทั้งหมดแล้วตามที่ได้ตกลงกัน ปลัดอำเภอผู้ไปทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมให้เจ้ามรดกนั้นแม้จะไปทำในวันหยุด ราชการ ก็ได้ชื่อว่าเป็นการปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หนังสือตัดทายาทจึงมีผลใช้ได้หนังสือตัดทายาทโดยธรรมเป็นเจตนาอันแน่วแน่ของ เจ้ามรดก นางทินมารดาจำเลยจึงถูกตัดจากฐานะที่จะเป็นทายาทตั้งแต่วันทำหนังสือตัด ทายาทโดยธรรมทันที แม้มารดาจำเลยจะสิ้นชีพไปก่อนเจ้ามรดกก็ไม่ทำให้เจตนาของเจ้ามรดกไร้ผล จำเลยในฐานะผู้รับมรดกแทนที่มารดาย่อมไม่มีสิทธิดีไปกว่ามารดาผู้เสวยสิทธิ โดยตรง จำเลยไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกแทนที่มารดา เพราะไม่มีที่จะให้รับแทนเสียแล้ว พิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ตามกฎหมาย ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้อง ให้จำเลยถอนการรับมรดกของนางเส้ง พุ่มคง ที่ยื่นไว้ต่ออำเภอสวี หากจำเลยไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ เห็นว่า เอกสารหนังสือตัดทายาทโดยธรรมแม้จะทำนอกที่ว่าการอำเภอในวันหยุดราชการก็ไม่ มีกฎกระทรวงหรือระเบียบห้ามไว้ ถือได้ว่านายสุพจน์ได้ทำเอกสารดังกล่าวในฐานะผู้รักษาการแทนนายอำเภอ หนังสือมีผลใช้บังคับได้ เหตุที่จะมีการรับมรดกแทนที่กันได้จะต้องเป็นกรณีที่บัญญัติไว้ตามมาตรา 1639 ถึง 1645 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ซึ่งมิได้บัญญัติไว้ว่าการตัดมิให้รับมรดก นั้นให้มีการรับมรดกแทนที่ได้พิพากษายืน จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า เรื่องการทำหนังสือตัดทายาทโดยธรรมมิให้รับมรดกนี้เป็น อำนาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอันการปฏิบัติหน้าที่ราชการ โดยทั่วไป นั้นถ้าไม่มีกฎหมายบังคับได้โดยตรงหรือโดยปริยายว่าให้ต้องทำในสถานที่ ราชการเท่านั้นแล้ว พนักงานผู้มีหน้าที่ก็ย่อมจะออกไปปฏิบัติราชการตามหน้าที่นอกสถานที่ได้ดัง เช่นจะเห็นได้ว่า ในกฎกระทรวงมหาดไทยออกตามความในมาตรา 1672 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในข้อ 5 ก็ได้บัญญัติไว้โดยปริยายให้เห็นได้ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่อาจจะออกไปปฏิบัติ กิจตามหน้าที่ภายนอกสถานที่ได้ ส่วนเรื่องการที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติราชการเป็นการบริการให้แก่ ประชาชนในวันหยุดราชการ เมื่อไม่มีกฎหมายห้ามไว้ และไม่เป็นการขัดต่อระเบียบแบบแผน ย่อมจะต้องถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการโดยชอบ ข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการเช่นนี้ย่อมเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย การที่นายสุพจน์ ลิมปกาญจน์ ได้ออกไปจากอำเภอสวีไปทำเอกสารดังกล่าวในฐานะผู้รักษาการแทนนายอำเภอที่บ้าน นางเส้งในวันหยุดราชการนั้น เอกสารที่นายสุพจน์ทำย่อมเป็นหนังสือตัดมรดกมิให้นางทินรับมรดกที่ได้ทำต่อ หน้าเจ้าพนักงานโดยชอบมีผลบังคับได้ตามกฎหมาย ส่วนในกรณีที่มารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้ได้รับมรดกตายเสียก่อนนางเส้งเจ้ามรดก นั้น เห็นว่าบทกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิการรับมรดกแทนที่มีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ บรรพ 6 หมวด 4 ตั้งแต่มาตรา 1639 ถึง 1645 มีความพอสรุปได้ว่า การที่ผู้สืบสันดานจะมีสิทธิเข้ารับมรดกแทนที่ทายาทที่แท้จริงได้นั้นมีอยู่ ด้วยกัน 2 กรณี คือกรณีที่ทายาทตามมาตรา 1629(1)(3)(4) หรือ (6) ตาย กับกรณีที่ถูกกำจัดมิให้รับมรดกดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1639 ปรากฏว่านางทินมารดาจำเลยถูกตัดไม่ให้รับมรดกเสียแล้วตั้งแต่ก่อนนางทินตาย นางทินจึงไม่ได้เป็นทายาทตามความในมาตรา 1629 อีกต่อไป นางทินจึงไม่มีที่ (ความเป็นทายาท) ที่จำเลยจะเข้ารับมรดกแทนได้ และไม่มีบทกฎหมายมาตราใดบัญญัติให้สิทธิแก่ผู้สืบสันดานที่จะเข้าแทนที่การ รับมรดกของทายาทโดยธรรมที่ถูกตัดมรดกดังเช่นกรณีของจำเลยนี้ หนังสือตัดไม่ให้รับมรดก เป็นการแสดงเจตนาโดยเด็ดขาดปราศจากเงื่อนไขใด ๆ ของเจ้ามรดก จึงมีผลทันทีเมื่อได้ทำขึ้นถูกต้องตามกฎหมาย หาใช่จะมีผลต่อเมื่อเจ้ามรดกตายไม่ เพราะหนังสือตัดทายาทโดยธรรมไม่ใช่พินัยกรรม ส่วนการที่การแสดงเจตนาตามหนังสือตัดการรับมรดกจะเกิดผลขึ้นเมื่อใดเป็นอีก เรื่องหนึ่งต่างหาก หนังสือตัดมรดกดังกล่าวมีผลใช้บังคับได้หาตกไปดังเช่นเรื่องพินัยกรรมไม่ พิพากษายืน
|