

ทายาทเป็นปฏิปัษ์ต่อกัน,ทรัพย์มรดก ทายาทเป็นปฏิปัษ์ต่อกัน,ทรัพย์มรดก การที่ศาลอาจตั้งผู้จัดการมรดกสองคนให้จัดการมรดกร่วมกันในพฤติการณ์ที่ทายาทเป็นปฏิปักษ์ต่อกันเกี่ยวกับการทรัพย์มรดกอาจทำให้ข้อขัดข้องในการจัดแบ่งมรดกยังคงมีต่อไป จึงสมควรแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเพียงคนเดียวโดยมีเงื่อนไขว่าการจัดการมรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนต้องได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3323/2538 เมื่อผู้ร้องและผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทด้วยกันมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อกันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายอำนาจของผู้จัดการมรดกในกรณีที่มีสองคนในการรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันให้ทายาทก็ไม่อาจจะหาเสียงข้างมากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1726ได้และคนใดคนหนึ่งก็ไม่อาจจัดการได้ ข้อขัดข้องในการจัดการแบ่งปันมรดกก็คงมีอยู่ต่อไป ฉะนั้นเมื่อผู้ตายไว้วางใจผู้ร้องมากถึงกับต้องการจะยกทรัพย์สินให้แก่ผู้ร้องเพียงผู้เดียวจึงสมควรให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกเพียงผู้เดียว แต่วางเงื่อนไขว่ากรณีที่ผู้ร้องจะจัดการมรดกไปในทางจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลภายนอกโดยมิได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคนนั้นจะต้องขออนุญาตจากศาลก่อนเพื่อมิให้เป็นการเสียหายแก่ผู้คัดค้าน ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่าผู้ร้องเป็นบุตรที่บิดารับรองแล้วของนายประเสริฐก่อนตายนายประเสริฐทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินที่มีอยู่ให้แก่ผู้ร้องเพียงผู้เดียวและมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดกขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่าผู้คัดค้านเป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายประเสริฐซึ่งมีบุตรด้วยกัน7คนผู้คัดค้านและบุตรอีก7คนมิได้ยินยอมให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกทรัพย์มรดกที่ระบุเป็นของนายประเสริฐนั้นความจริงเป็นสินสมรสระหว่างผู้คัดค้านกับนายประเสริฐพินัยกรรมของนายประเสริฐจะถูกต้องสมบูรณ์และจะเป็นลายมือชื่อของนายประเสริฐจริงหรือไม่ผู้คัดค้านไม่รับรองขณะทำพินัยกรรมนายประเสริฐเป็นอัมพาตอยู่ขอให้ยกคำร้องและตั้งให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายประเสริฐหรือให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายร่วมกัน ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค3พิพากษาแก้เป็นว่าให้ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเพียงผู้เดียวยกคำคัดค้านของผู้คัดค้าน ผู้คัดค้านฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า"พิเคราะห์แล้วมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่าสมควรตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกับผู้ร้องหรือไม่ผู้คัดค้านอ้างว่าผู้ร้องมีพฤติการณ์ส่อว่าจะเอาทรัพย์มรดกของผู้ตายเพียงคนเดียวและผู้ร้องอาจจะจำหน่ายทรัพย์มรดกไปอันจะเป็นเหตุให้ทายาทอื่นได้รับความเสียหายควรตั้งให้ผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมด้วยศาลฎีกาเห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดีข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้ร้องและผู้คัดค้านมีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อกันเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของผู้ตายซึ่งการจัดการมรดกนั้นผู้จัดการมรดกมีหน้าที่สำคัญในการรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันให้ทายาทอำนาจของผู้จัดการมรดกในกรณีที่มีสองคนการจัดการจะต้องดำเนินการร่วมกันถ้าเกิดเป็นสองฝ่ายแล้วกรณีก็ไม่อาจจะหาเสียงข้างมากตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1726ได้คนใดคนหนึ่งก็ไม่อาจจัดการไปได้การจัดการมรดกตามคำสั่งศาลที่ให้จัดการร่วมกันก็ไม่มีผลข้อขัดข้องในการจัดการแบ่งปันมรดกก็คงมีอยู่ต่อไปไม่อาจแบ่งปันให้แก่ทายาทได้ทั้งยังมีข้อโต้แย้งว่าทรัพย์ที่ปรากฏในคำร้องนั้นเป็นทรัพย์มรดกของเจ้ามรดกหรือไม่โดยเหตุนี้ผู้ร้องหรือผู้คัดค้านคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายโดยพิจารณาตั้งผู้ที่เหมาะสมมากกว่าซึ่งในข้อนี้เมื่อพิจารณาตามพินัยกรรมเอกสารหมายร.9แล้วเห็นว่าผู้ตายซึ่งเป็นเจ้ามรดกมีความไว้วางใจผู้ร้องมากถึงกับต้องการจะยกทรัพย์สินของตนให้แก่ผู้ร้องเพียงผู้เดียวระหว่างยังเจ็บป่วยอยู่ผู้ร้องก็ได้ดูแลผู้ตายใกล้ชิดกว่าผู้คัดค้านการให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายน่าจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้ตายมากกว่าให้ผู้อื่นเป็นผู้จัดการมรดกจึงเห็นสมควรให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายเพียงผู้เดียวแต่เพื่อมิให้เป็นการเสียหายแก่ผู้คัดค้านซึ่งเป็นทายาทด้วยในกรณีที่ผู้ร้องจะจัดการมรดกไปในทางจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลภายนอกโดยมิได้รับความเห็นชอบจากทายาททุกคนนั้นจะต้องขออนุญาตจากศาลก่อนเป็นกรณีไปจึงสมควรวางเงื่อนไขดังกล่าวในคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค3ชอบแล้วฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น" พิพากษายืนให้ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายประเสริฐโสตถิกำแหงผู้ตายโดยให้มีสิทธิและหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดและอยู่ในเงื่อนไขที่ว่าถ้าจะจำหน่ายจ่ายโอนหรือก่อภาระติดพันกับทรัพย์มรดกที่มีหลักฐานทางทะเบียนให้แก่บุคคลที่มิใช่ทายาทที่มีสิทธิรับมรดกโดยมิได้รับความยินยอมจากทายาททุกคนแล้วจะต้องขออนุญาตศาลก่อนเป็นกรณีไป |