

เจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดก เจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดก เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตาย โดยไม่มีทายาทโดยธรรม มรดกตกทอดแก่แผ่นดิน เจ้าหนี้ของผู้ตายจะบังคับชำระหนี้ได้ต่อเมื่อมีการตั้งผู้จัดการมรดกขึ้นแล้ว หากไม่มีผู้จัดการมรดกเจ้าหนี้ก็ไม่อาจได้รับชำระหนี้ได้ ดังนั้นจึงต้องถือว่าเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกได้ คำพิพากษา ศาลฎีกาที่ 1695/2531 กองมรดกซึ่งไม่มีทายาทนั้น แม้มรดกจะตกทอดแก่แผ่นดิน แผ่นดินก็มิใช่ทายาท เจ้าหนี้ไม่อาจบังคับชำระหนี้จนกว่าจะได้ตั้งผู้จัดการมรดกขึ้น และหากไม่มีผู้จัดการมรดกอยู่ตราบใด เจ้าหนี้ก็ไม่มีทางได้รับชำระหนี้ได้เลย การที่เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้จากกองมรดกขึ้นอยู่กับการที่กองมรดกมีผู้จัดการมรดก ในกรณีเช่นนี้ จึงต้องถือว่าเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่ง ตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้ววินิจฉัยว่าผู้ร้อง ในฐานะเจ้าหนี้มิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียที่จะมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้ง ผู้จัดการมรดก ให้ยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ผู้ร้องฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนฟังได้ว่านายเนียม ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2522 นายเนียมไม่มีทายาท นางทาเป็นเจ้าหนี้กองมรดกของนายเนียมศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนางทาเป็นผู้จัดการมรดกของนายเนียมตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 1280/2526 แต่การจัดการมรดกยังไม่เสร็จนางทาได้ถึงแก่กรรม ผู้ร้องซึ่งเป็นทายาทของนางทาได้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนางทา ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนางทาตามคดีแพ่งหมาย เลขแดงที่ 477/2527 ผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้กองมรดกไม่มีทายาทจึงยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้ร้องเป็น ผู้จัดการมรดกของนายเนียมเป็นคดีนี้ พิเคราะห์ แล้ว คดีมีปัญหาในชั้นนี้ว่าผู้ร้องในฐานะเจ้าหนี้กองมรดกของนายเนียมซึ่งไม่มี ทายาทเป็นผู้มีส่วนได้เสียอันจะทำให้มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกหรือไม่ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่เห็นว่า กองมรดกซึ่งไม่มีทายาทนั้นแม้มรดกจะตกทอดแก่แผ่นดิน แผ่นดินก็มิใช่ทายาท เจ้าหนี้ไม่สามารถบังคับชำระหนี้จนกว่าจะได้ตั้งผู้จัดการมรดกขึ้น และหากไม่มีผู้จัดการมรดกอยู่ตราบใด เจ้าหนี้ก็ไม่มีทางได้รับชำระหนี้ได้เลย การที่เจ้าหนี้จะได้รับชำระหนี้จากกองมรดกจึงขึ้นอยู่กับการที่กองมรดกมี ผู้จัดการมรดก ในกรณีเช่นนี้ต้องถือว่าเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องต่อศาล ขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 ส่วนปัญหาที่ว่า สมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกหรือไม่นั้นเห็นว่า แม้ผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้กองมรดก ซึ่งตามปกติย่อมมีส่วนได้เสียเป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดก แต่เมื่อไม่ปรากฏว่ามีผู้มีส่วนได้เสียอื่นอีก และพนักงานอัยการก็มิได้คัดค้านไว้ จึงเห็นสมควรตั้งให้ตามที่ขอ" พิพากษากลับ ให้ตั้งนายชื่น ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายเนียม ผู้ตาย ให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย และแจ้งคำสั่งนี้ให้พนักงานอัยการทราบด้วย หมายเหตุ 1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 บัญญัติว่า"ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ฯลฯ" ข้อเท็จจริงคดีนี้สรุปได้ว่า ผู้ร้องอ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายโดยผู้ตายไม่มีทายาท เจ้าหนี้จึงมาร้องขอให้ศาลตั้งเจ้าหนี้เป็นผู้จัดการมรดก ปัญหามีว่า เจ้าหนี้ของผู้ตายที่ไม่มีทายาทมีอำนาจร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกได้หรือไม่ 2. มาตรา 1753 บัญญัติว่า "ภายใต้บังคับแห่งสิทธิของเจ้าหนี้กองมรดก เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตายโดยไม่มีทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม หรือการตั้งมูลนิธิตามพินัยกรรม มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่แผ่นดิน" ดังนั้น เมื่อ น. ผู้ตายไม่มีทายาท มรดกของน. ก็ตกทอดแก่แผ่นดิน แต่เนื่องจากการตกทอดนี้เป็นผลตามบทบัญญัติของกฎหมายและตามมาตรา 1603 ได้ระบุว่าทายาทมีสองประเภทเท่านั้น คือทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายเรียกว่า ทายาทโดยธรรมและทายาทที่มีสิทธิตามพินัยกรรมเรียกว่า ผู้รับพินัยกรรม ดังนั้นในกรณีที่มรดกของผู้ตายที่ไม่มีทายาทให้ตกทอดแก่แผ่นดิน แผ่นดินจึงไม่ใช่ทายาทของผู้ตาย แต่ถ้าผู้ตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกของตนให้แก่แผ่นดิน เช่นยกที่ดินให้กรมสามัญศึกษา กรมสามัญศึกษาก็อาจเป็นทายาทของผู้ตายได้ ทายาทนั้นนอกจากมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดก และสิทธิต่าง ๆแล้วยังมีหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ด้วยตามมาตรา 1600 ทั้งนี้เจ้าหนี้กองมรดกจะบังคับสิทธิเรียกร้องต่อทายาทคนใดก็ได้ตาม มาตรา 1737 แต่ทายาทไม่จำต้องรับผิดเกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตกทอดแก่ตนตามมาตรา 1601 ฎีกานี้จึงวินิจฉัยในชั้นต้นว่า แผ่นดินไม่ใช่ทายาทของผู้ตายตามมาตรา 1753 เพราะหากแผ่นดินเป็นทายาทแล้วเจ้าหนี้ก็ย่อมไม่มีอำนาจร้องขอ 3. ข้อควรพิจารณาต่อไปว่า แผ่นดินตามความหมายของมาตรา 1753 หมายถึงผู้ใด ผู้เขียนเห็นว่า น่าจะหมายถึง กรมธนารักษ์กระทรวงการคลัง ซึ่งมีหน้าที่และความรับผิดชอบเก็บรักษาทรัพย์สินของรัฐและจัดทรัพย์สินของรัฐ ด้วยเหตุนี้ ถ้ามรดกที่ตกทอดแก่แผ่นดินนั้น เป็นทรัพย์สินมีมูลค่ามากกว่าหนี้สิน แผ่นดินโดยกรมธนารักษ์น่าจะเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรง ที่จะเป็นผู้มีอำนาจร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก เพื่อแสดงแก่บุคคลภายนอกและรับโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์มรดกมาเป็นของแผ่นดิน 4. เข้าใจว่าคดีนี้ น. ผู้ตายน่าจะมีทรัพย์สินน้อยกว่าหนี้สิน และแผ่นดินไม่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้ของผู้ตายจึงได้ร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก ปัญหาว่าเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียมีอำนาจร้องหรือไม่ ในกรณีผู้ตายมีทายาท และทายาทปฏิเสธไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับการชำระหนี้จากทรัพย์สินในกองมรดก อาจฟ้องให้ทายาทคนใดรับผิดก็ได้ตามมาตรา 1734,1737 ดังนั้น ถ้าผู้ตายมีทายาท เจ้าหนี้จึงไม่ถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ไม่มีอำนาจร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก (คำพิพากษาฎีกาที่ 1098/2523,267/2524) แต่ในกรณีผู้ตายไม่มีทายาท เจ้าหนี้ไม่มีทางใช้สิทธิเรียกร้องเอาชำระหนี้จากบุคคลใดได้ โดยเฉพาะในกรณีนี้ จะฟ้องแผ่นดินก็ไม่ได้เพราะแผ่นดินไม่ใช่ทายาทดังกล่าว แล้วศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่จึงวินิจฉัยว่า เจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิร้องขอต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ 5. ข้อน่าคิดประการแรกว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นประกาศนัดไต่สวนเช่นเดียวกันกับคดีขอจัดการมรดกทั่วไปน่าจะ ไม่เพียงพอ ผู้เขียนเห็นว่า เมื่อแผ่นดินเป็นผู้มีส่วนได้เสียโดยตรงแต่ไม่อาจจะรู้ถึงสิทธิของตน หรือรู้แล้วแต่คิดว่าผู้ตายไม่มีทรัพย์สินที่จะเหลือตกทอดแก่ตนก็ตาม ศาลชอบที่จะสำเนาคำร้องขอ และแจ้งวันกำหนดนัดไต่สวนให้แผ่นดิน คือกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังทราบเพื่อจะคัดค้านหรือไม่คัดค้านคำร้องขอ และพิจารณาว่าควรจะเข้ามาในคดีหรือไม่ด้วย ข้อน่าคิดประการต่อไป ในกรณีเจ้าหนี้มีสิทธิร้องขอนั้นจักต้องร้องขอภายในอายุความมรดกที่บังคับ ให้เจ้าหนี้ฟ้องให้กองมรดกรับผิดชำระหนี้ภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่เมื่อเจ้าหนี้ได้รู้หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดกตามมาตรา 1754 วรรคสามหรือไม่ ตามคดีจัดการมรดกทั่วไปไม่มีบทบัญญัติกำหนดอายุการยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ดังนั้นจะยื่นคำร้องขอภายหลังเจ้ามรดกตายแล้วกี่ปีก็ได้ แต่กรณีเจ้าหนี้เป็นผู้ร้องเพื่อเอาทรัพย์มรดกชำระหนี้แก่ตน ก่อนนั้นมีอายุความมรดกกำหนดหนึ่งปีดังกล่าวข้างต้นผู้เขียนจึงเห็นว่า เจ้าหนี้ชอบที่จะร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ที่ไม่มีทายาทภายในอายุ ความมรดกหนึ่งปีเช่นกัน แต่คดีนี้ น.ลูกหนี้ตายเมื่อ 14 สิงหาคม 2522 ท. เจ้าหนี้ น.ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกเมื่อ พ.ศ. 2526 ท.ตายผู้ร้องทายาทของ ท.ก็ใช้สิทธิของท. มาร้องขอจัดการมรดกของ น.ต่อมาอีกเป็นคดีนี้ซึ่งเกินกำหนดอายุความมรดก 1 ปีแล้ว แต่เนื่องจากแผ่นดินไม่อาจรู้หรือควรได้รู้ว่า กองมรดกของ น. ไม่มีทายาทจึงไม่ได้เข้ามาในคดี และไม่มีโอกาสยกอายุความมรดกขึ้นเป็นข้อต่อสู้เจ้าหนี้ผู้ร้องและศาลฎีกาจะหยิบยกปัญหาดังกล่าวมาวินิจฉัยเป็นมูลยกฟ้องก็ไม่ได้ตามมาตรา 193 สรุปแล้ว ผู้เขียนเห็นพ้องด้วยว่า ในกรณีลูกหนี้ผู้ตายไม่มีทายาท เจ้าหนี้มีสิทธิร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกได้ แต่ศาลควรแจ้งให้แผ่นดินคือกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังทราบเพื่อใช้สิทธิเข้ามาในคดี และการร้องขออยู่ในบังคับอายุความมรดกตามมาตรา 1754 อัมพรณตะกั่วทุ่ง
|