ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




ทำร้ายร่างกายกับการป้องกันตัว

ทำร้ายร่างกายกับการป้องกันตัว

จำเลย มิได้อุทธรณ์ประเด็นที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ด้วย ซึ่งศาลอุทธรณ์ ได้วินิจฉัยประเด็นที่จำเลยนำสืบว่า กลุ่มผู้เสียหายก่อเรื่องก่อน จำเลยจึงใช้ไม้ป้องกันตัวนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน จำเลยจึงไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2397/2554

          จำเลยอุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่า พยานโจทก์เห็นและจำจำเลยได้ว่าเป็นคนร้ายที่ใช้ขวานฟันผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 หรือไม่ มิได้อุทธรณ์ประเด็นที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์โดยให้เหตุผลในการวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงแล้วเชื่อว่าประจักษ์พยานโจทก์ทั้งห้าปากเห็นเหตุการณ์ขณะที่จำเลยใช้ขวานฟันผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จริงในขณะเกิดเหตุ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะวินิจฉัยไว้ด้วยว่า ที่จำเลยนำสืบว่า กลุ่มผู้เสียหายก่อเรื่องก่อน จำเลยจึงใช้ไม้ป้องกันตัวนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน จำเลยจึงไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้ ก็เป็นการวินิจฉัยตามข้อนำสืบต่อสู้ของจำเลยเท่านั้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 186 (6) แล้ว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 295, 297, 371, 391

          จำเลยให้การปฏิเสธ
          ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 3 ปี ข้อหาอื่นให้ยก   จำเลยอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
          จำเลยฎีกา

            ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่ว่า เป็นเรื่องสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน จึงไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้นั้น ไม่ปรากฏเหตุผลที่แน่ชัดและการวินิจฉัยพยานหลักฐานสิ่งใดที่ชัดเจน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 มิได้กล่าวถึงเหตุผลที่ฟังข้อเท็จจริงว่าเป็นการทะเลาะวิวาทกัน จำเลยอุทธรณ์ประเด็นเรื่องการป้องกันตัวด้วย แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังไม่ได้วินิจฉัยนั้น ศาลฎีกาได้ตรวจอุทธรณ์ของจำเลยโดยตลอดแล้ว เห็นว่า จำเลยอุทธรณ์เพียงประเด็นเดียวว่าพยานโจทก์เห็นและจำจำเลยได้ว่าเป็นคนร้ายที่ใช้ขวานฟันผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 หรือไม่ มิได้อุทธรณ์ประเด็นที่ว่า การกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ด้วย ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัยประเด็นที่จำเลยอุทธรณ์โดยให้เหตุผลในการวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงแล้วเชื่อว่าประจักษ์พยานโจทก์ทั้งห้าปากเห็นเหตุการณ์ขณะที่จำเลยใช้ขวานฟันผู้เสียหายที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 จริงในขณะเกิดเหตุ แม้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 จะวินิจฉัยไว้ด้วยว่า ที่จำเลยนำสืบว่า กลุ่มผู้เสียหายก่อเรื่องก่อน จำเลยจึงใช้ไม้ป้องกันตัวนั้น เห็นว่า เป็นเรื่องสมัครใจทะเลาะวิวาทกัน จำเลยจึงไม่สามารถอ้างเหตุป้องกันได้ ก็เป็นการวินิจฉัยตามข้อนำสืบต่อสู้ของจำเลยเท่านั้น คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 จึงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 (6) แล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

          พิพากษายืน

 




ความผิดเกี่ยวกับชีวิตและร่างกาย

สมัคใจวิวาทกันสมัครใจเข้าเสี่ยงภัย
ขับรถโดยประมาทผู้อื่นถึงแก่ความตาย
คำให้การในชั้นสอบสวน
พูดสนับสนุนให้จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้ตาย
พยายามฆ่าผู้เสียหายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
ขับรถปิดเส้นทางโดยมีเจตนาฆ่า
การสมัครใจทะเลาะวิวาทอ้างเหตุป้องกันตัวไม่ได้