

ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน | หนังสือมอบอำนาจปลอม ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน | หนังสือมอบอำนาจปลอม ถ้าผู้โอนไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินก็ไม่มีสิทธิอำนาจจะนำที่ดินไปขายให้ผู้ใด คดีนี้เมื่อได้ความว่ามีการปลอมหนังสือมอบอำนาจ และจำเลยที่ 1 ได้นำไปจดทะเบียนขายที่ดินให้จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทที่จะนำไปขายฝากให้จำเลยที่ 3 โจทก์ซึ่งเป็นทายาทจึงมีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4176/2530 จำเลยที่ 1 ใช้ใบมอบอำนาจของ อ. ซึ่งเป็นใบมอบอำนาจปลอมโอนขายที่ดินของ อ.ให้จำเลยที่ 2 โดยอ. มิได้รู้เห็นยินยอม แล้วจำเลยที่ 2 นำที่ดินไปขายฝากแก่จำเลยที่ 3 ดังนี้ จำเลยที่ 2 ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินและย่อมไม่มีอำนาจที่จะนำไปขายฝากแก่จำเลยที่ 3 ได้ โจทก์ซึ่งเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของ อ. จึงมีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนั้นกลับคืนมาเป็นของ อ. ตามเดิมได้ โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง ขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินซึ่งตั้งอยู่ในเขตศาลจังหวัดนครปฐม การที่ศาลแพ่งรับฟ้องรับคำให้การ ตลอดจนสืบพยานจนเสร็จการพิจารณาย่อมแสดงว่าศาลแพ่งยอมรับพิจารณาคดีนี้ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(4) แล้ว โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งหกเป็นผู้จัดการมรดกของสมเด็จพระนางเจ้า...และทรงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดที่ 2196 เมื่อราวปลายปี พ.ศ. 2508 นายถวัลย์ ขอซื้อที่ดินจากพระองค์ท่านหลายแปลงและบอกว่ามีผู้ขอซื้ออีกหลายแปลง พระองค์ท่านทรงตกลงขายให้และทรงลงพระนามในหนังสือมอบอำนาจหลายฉบับที่ยังไม่ได้กรอกข้อความมอบให้นายถวัลย์ไปจัดการโดยเข้าพระทัยว่านายถวัลย์ใช้หนังสือมอบอำนาจหมดแล้ว ต่อมาปี พ.ศ. 2515 พระองค์ท่านทรงทราบว่าจำเลยที่ 1 ขายที่ดินโฉนดที่ 2196 ให้แก่จำเลยที่ 2 ไปโดยพระองค์ท่านไม่เคยทรงมอบอำนาจให้จำเลยที่ 1 ขายที่ดิน และจำเยที่ 2 ขายฝากที่ดินให้จำเลยที่ 3 ไปแล้ว ทั้งนี้เพราะนายถวัลย์ใช้หนังสือมอบอำนาจที่พระองค์ท่านทรงลงพระนามให้ไม่หมด เมื่อนายถวัลย์ถึงแก่กรรมจำเลยที่ 1 สมคบกับจำเลยที่ 2 ปลอมหนังสือมอบอำนาจและโอนให้แก่จำเลยที่ 2 การโอนจึงเป็นโมฆะการจดทะเบียนขายฝากให้จำเลยที่ 3 ก็เป็นโมฆะไปด้วย ผู้จัดการมรดกและทายาทโดยธรรมของพระองค์ท่านมีสิทธิขอให้เพิกถอนเอาที่ดินคืนได้ ขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินตามฟ้องระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และการขายฝากระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 ให้ที่ดินกลับคืนมาอยู่ในรพะนามสมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจีตามเดิม หากจำเลยไม่จัดการให้ถือเอาคำพิพากษาของสาลแทนการแสดงเจตนาของจำเลย จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2 ให้การว่าซื้อที่ดินมาโดยสุจริตด้วยการจัดการของนายถวัลย์ตัวแทนและผู้จัดการผลประโยชน์ของสมเด็จพระนางเจ้า... หากมีการปลอมหนังสือมอบอำนาจก็เกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของพระองค์ท่านที่ทรงลงพระนามในหนังสือมอบอำนาจโดยไม่กรอกข้อความมอบให้นายถวัลย์ไป จึงฟ้องเพิกถอนการโอนมิได้ จำเลยที่ 3 ให้การว่าที่ดินพิพาทตั้งอยู่ในเขตศาลจังหวัดนครปฐมโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง จำเลยที่ 3 มิได้สมคบกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ในการทำสัญญาขายฝากและมิได้ประมาทเลินเล่อ แต่เห็นว่าจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จึงรับซื้อฝากที่ดินไว้จนหลุดเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 3 เหตุเกิดจากความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของสมเด็จพระนางเจ้า... ซึ่งทรงทราบดีว่าได้มอบโฉนดที่ดินและหนังสือมอบอำนาจให้ผู้ใดไป เมื่อนายถวัลย์ถึงแก่กรรมก็มิได้ทรงประกาศยกเลิกเอกสารต่าง ๆ ที่ทรงลงประนามไว้ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามเพิกถอนการจดทะเบียนนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์ระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 กับนิติกรรมขายฝากระหว่างจำเลยที่ 2และจำเลยที่ 3 ในโฉนดที่ดินพิพาทเลขที่ 2196 ตำบลกระพังโหม อำเภอกำแพงแสนจังหวัดนครปฐม ให้กลับคืนมาในนามของสมเด็จพระนางเจ้า...พระวรราชชายาหากจำเลยทั้งสามเพิกเฉยก็ใหถือเอาคำพิพากษานี้เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยทั้งสาม สำหรับค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความสมควรให้เป็นพับ จำเลยที่ 3 อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยที่ 3 ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ 5,000 บาทแทนโจทก์ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ 3 ฎีกาว่า ที่พิพาทตั้งอยู่ในเขตศาลจังหวัดนครปฐมโจทก์ฟ้องคดีนี้ต่อศาลแพ่งโดยไม่ขออนุญาตก่อนเป็นการไม่ชอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีที่เกิดขึ้นนอกเขตของศาลแพ่งนั้น จะยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งก็ได้แต่อยู่ในดุลพินิจของ ศาลแพ่งที่จะไม่ยอมรับพิจารณาพิพากษาคดีที่ยื่นฟ้องเช่นนั้นได้ ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14(4) การที่ศาลแพ่งรับฟ้อง รับคำให้การ ตลอดจนสืบพยานจนเสร็จการพิจารณาย่อมแสดงให้เห็นว่า ศาลแพ่งใช้ดุลพินิจยอมรับพิจารณาคดีนี้ตามบทกฎหมายดังกล่าวแล้ว จำเลยที่ 3 ฎีกาข้อสุดท้ายว่าสมเด็จพระนางเจ้า... กระทำการด้วยความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทรงลงพระนามในหนังสือมอบอำนาจที่ยังไม่ได้กรอกข้อความแล้วทรงมอบให้นายถวัลย์พร้อมกับโฉนดที่ดิน เมื่อนายถวัลย์ถึงแก่กรรมก็มิได้ทรงเรียกคืนจากจำเลยที่ 1 แสดงว่าทรงรู้เห็นหรือมอบหมายให้จำเลยที่ 1 โอนที่ให้จำเลยที่ 2 ได้ จำเลยที่ 3 รับซื้อฝากที่พิพาทโดยสุจริต เสียค่าตอบแทน จะอ้างความประมาทเลินเล่อของเจ้าของที่ดินเดิมมาเพิกถอนนิติกรรมระหว่างจำเลยที่ 2 กับจำเลยที่ 3 หาได้ไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 3 รับซื้อฝากที่พิพาทมาจากจำเลยที่ 2 จึงต้องพิเคราะห์ว่า จำเลยที่ 2 มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทหรือไม่ ถ้าจำเลยที่ 2 ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่พิพาทก็ไม่มีอำนาจจะนำที่พิพาทไปขายให้จำเลยที่ 3 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีการปลอมหนังสือมอบอำนาจ และจำเลยที่ 1 ได้นำหนังสือมอบอำนาจฉบับนี้ไปเป็นหลักฐานในการจดทะเบียนขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 ในราคา 280,000 บาท แต่ราคาประเมินของทางราชการ ที่พิพาทมีราคาประเมินประมาณ 540,000 บาท สูงกว่าราคาที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 ซื้อขายกัน ทั้งยังได้ความในช่วงนี้ พ.ศ. 2514 ซึ่งจำเลยที่ 2 อ้างว่าซื้อที่พิพาทมาจากสมเด็จพระนางเจ้า... นั้น ฐานะการเงินของจำเลยที่ 2ไม่ดีธนาคารเริ่มจะทวงหนี้และไม่ยอมให้จำเลยที่ 2 เบิกเงินเกินบัญชีอีก จึงไม่มีเหตุผลให้เชื่อว่าจำเลยที่ 2 ซื้อที่พิพาทและชำระเงินให้สมเด็จพระนางเจ้า...และพระองค์ท่านทรงรู้เห็นยินยอมในการขายที่พิพาทแต่อย่างใด เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าพระองค์ท่านทรงขายที่พิพาทให้จำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิใด ๆ ในที่พิพาทที่จะนำไปขายฝากให้จำเลยที่ 3 โจทก์ซึ่งเป็นทายาทและเป็นผู้จัดการมรดกของสมเด็จพระนางเจ้า...จึงมีสิทธิขอให้ศาลเพิกถอนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทกลับคืนมาเป็นของพระองค์ท่านตามเดิม มาตรา 1336 ภายในบังคับแห่งกฎหมาย เจ้าของทรัพย์สินมีสิทธิใช้สอย และจำหน่ายทรัพย์สินของตนและได้ซึ่งดอกผลแห่งทรัพย์สินนั้น กับทั้งมีสิทธิ ติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์สินของตนจากบุคคลผู้ไม่มีสิทธิจะยึดถือไว้ และ มีสิทธิขัดขวางมิให้ผู้อื่นสอดเข้าเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนั้นโดยมิชอบด้วย กฎหมาย มาตรา 1719 ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรม และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไป หรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก พระธรรมนูญศาลยุติธรรม มาตรา 14 มาตรา 14 ให้อธิบดีผู้พิพากษาภาคเป็นผู้พิพากษาในศาลที่อยู่ในเขตอำนาจด้วยผู้หนึ่ง โดยให้มีอำนาจและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 11 วรรคหนึ่ง และให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย |