ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินสินสมรส

ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินสินสมรส


การที่สามีโจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินอันเป็นสินสมรสให้แก่จำเลย เป็นกรณีจัดการสินสมรสซึ่งต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์เมื่อสามีโจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินโดยมิได้รับความยินยอมจากโจทก์ โจทก์มีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินได้ภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รู้เรื่องการกระทำหรือภายใน 10 ปี นับแต่วันจดทะเบียนขายฝาก เว้นแต่จำเลยได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  794/2548

การที่ อ. สามีโจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทอันเป็นสินสมรสให้แก่จำเลย เป็นกรณีที่ อ. จัดการสินสมรสซึ่งโดยปกติต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1479 เมื่อ อ. จดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยโดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทได้ภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รู้เรื่องการกระทำดังกล่าวหรือภายใน 10 ปี นับแต่วันจดทะเบียนขายฝาก เว้นแต่ขณะที่ทำนิติกรรมนั้นจำเลยได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนตาม มาตรา 1480

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายอรุณ พิมพะสอน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2541 นายอรุณสามีโจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 85 ซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์และนายอรุณให้แก่จำเลย จำนวน 70,000 บาท มีกำหนด 3 เดือน โดยโจทก์มิได้ให้ความยินยอม และจำเลยทราบว่าที่ดินดังกล่าวเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนายอรุณ ต่อมาวันที่ 6 มกราคม 2543 โจทก์ทราบการกระทำดังกล่าวจึงมีหนังสือแจ้งขอให้เพิกถอนการขายฝากและโอนที่ดินคืนแล้วแต่จำเลยเพิกเฉย ขอให้พิพากษาเพิกถอนการขายฝากที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 85 เลขที่ดิน 223 ตำบลโพนทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างสามีโจทก์กับจำเลย และให้จำเลยไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์เป็นชื่อโจทก์ หากไม่ไปให้ถือเอาตามคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

          จำเลยให้การว่า โจทก์ทราบและยินยอมให้นายอรุณนำที่ดินแปลงพิพาทจดทะเบียนขายฝากไว้แก่จำเลย โจทก์มิได้ฟ้องคดีภายในกำหนด 1 ปี นับแต่วันจดทะเบียนคดีโจทก์จึงขาดอายุความ

          ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลย โดยกำหนดค่าทนายความให้ 2,000 บาท

          โจทก์อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษากลับ ให้เพิกถอนนิติกรรมขายฝากที่ดินหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 85 เลขที่ดิน 223 ตำบลโพนทอง อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2541 ระหว่างนายอรุณ พิมพะสอน กับจำเลยให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 8,000 บาท คำขออื่นขอให้ยก

          จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า โจทก์เป็นภริยาของนายอรุณ พิมพะ__ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2541 นายอรุณทำนิติกรรมจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทซึ่งเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนายอรุณให้แก่จำเลย มีปัญหาต้องวินิจฉัยก่อนว่า โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทได้หรือไม่ เห็นว่า การที่นายอรุณสามีโจทก์จดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทอันเป็นสินสมรสให้แก่จำเลย เป็นกรณีที่นายอรุณจัดการสินสมรสซึ่งโดยปกติต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1479 เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่านายอรุณจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยโดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทดังกล่าวภายในกำหนดเวลา 1 ปี นับแต่วันที่รู้เรื่องการกระทำดังกล่าวหรือภายใน 10 ปี นับแต่วันจดทะเบียนขายฝาก เว้นแต่ขณะที่ทำนิติกรรมนั้น จำเลยได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480 คดีมีปัญหาว่าจำเลยกระทำโดยสุจริตหรือไม่ เห็นว่าคดีโจทก์ฟ้องว่า จำเลยทราบว่านายอรุณมีคู่สมรส และที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนายอรุณจำเลยมิได้ให้การปฏิเสธในเรื่องนี้ ถือว่าจำเลยทราบแล้วว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรสระหว่างโจทก์กับนายอรุณตามฟ้อง ดังนั้น การที่จำเลยยังทำนิติกรรมขายฝากทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าที่ดินพิพาทเป็นสินสมรส จึงมิใช่เป็นการกระทำโดยสุจริต ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1480 วรรคหนึ่ง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนขายฝากที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยกับนายอรุณได้ ฎีกาจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น"

          พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

ป.พ.พ.

มาตรา 1479  การใดที่สามีหรือภริยากระทำซึ่งต้องรับความยินยอมร่วมกันและถ้าการนั้นมีกฎหมายบัญญัติให้ทำเป็นหนังสือหรือให้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ความยินยอมนั้นต้องทำเป็นหนังสือ

มาตรา 1480  การจัดการสินสมรสซึ่งต้องจัดการร่วมกันหรือต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่งตามมาตรา 1476 ถ้าคู่สมรสฝ่ายหนึ่งได้ทำนิติกรรมไปแต่เพียงฝ่ายเดียวหรือโดยปราศจากความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งอาจฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้นแล้ว หรือในขณะที่ทำนิติกรรมนั้นบุคคลภายนอกได้กระทำโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน
การฟ้องให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมตามวรรคหนึ่งห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นหนึ่งปี นับแต่วันที่ได้รู้เหตุอันเป็นมูลให้เพิกถอน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น




ซื้อขาย

สัญญาจะแลกเปลี่ยนที่ดินซึ่งมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการซื้อขายที่ดิน
การซื้อขายบ้านในลักษณะที่คงสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์
หน้าที่ของผู้ซื้อและผู้ขาย, ผิดสัญญาตัวแทนจัดจำหน่าย,
สัญญาซื้อขายที่ดินติดจำนองกับธนาคาร
ซื้อขายที่ดินไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
ภาษีธุรกิจเฉพาะ | โอนกรรมสิทธิไม่มีค่าตอบแทน
ความรับผิดของผู้ขายก่อนเข้าทำสัญญา
การเสียภาษีผิดประเภทการค้า-ภาษีการค้าในประเภทการขาย
ผิดสัญญาไม่เป็นละเมิด-การไม่ปฏิบัติตามสัญญาไม่เป็นการละเมิด
ค่าขาดประโยชน์ในการใช้รถยนต์
ฝ่ายที่วางมัดจำไม่ชำระหนี้ให้ริบเงินมัดจำ
ความรับผิดของนิติบุคคลก่อนจดทะเบียนห้างฯ
ผู้รับโอนไม่มีสิทธิดีกว่าผู้โอน | หนังสือมอบอำนาจปลอม