

สัญญายอมความกับคำมั่นว่าจะให้ที่ดินหลุดขายฝาก สัญญายอมความกับคำมั่นว่าจะให้ สัญญาขายฝากที่คู่สัญญาทำกันไว้ผู้ขายขาดสิทธิการไถ่ถอนตกเป็นของผู้รับซื้อฝากแล้ว เจ้าของที่ดินคือผู้รับซื้อฝากทำสัญญายอมแบ่งที่ดินดังกล่าวคืนแก่ผู้ขายเพื่อมนุษยธรรมที่ได้เป็นเจ้าของมาแต่ดั้งเดิมไม่ปรากฏว่าคู่สัญญามีข้อพิพาทอันใดต่อกันเกี่ยวกับที่ดินแปลงพิพาทแต่ผู้ขายฝากได้ประโยชน์ฝ่ายเดียวจากข้อตกลงนี้ สัญญายอมแบ่งที่ดินคืนไม่มีลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2523 โจทก์ขายฝากที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลย ครบกำหนดเวลาไถ่แล้ว จำเลยทำสัญญาว่าจะแบ่งที่ดินคืนให้โจทก์บางส่วนเพื่อมนุษยธรรม สัญญาดังกล่าวไม่ใช่สัญญาประนีประนอมยอมความแต่เป็นสัญญาให้ หรือคำมั่นจะให้ทรัพย์สิน เมื่อไม่จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 526 สัญญานั้นก็ไม่ผูกพันจำเลย โจทก์จะอาศัยสัญญาดังกล่าวมาฟ้องบังคับให้จำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ไม่ได้ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ขายฝากที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลยในราคา 25,600 บาท กำหนดไถ่คืนในเวลา 4 เดือน หลังจากสัญญาขายฝากสิ้นกำหนดลง โจทก์ติดต่อขอที่ดินบางส่วนคืน จำเลยได้ทำหนังสือสัญญากับโจทก์ว่า จำเลยจะขอเอาที่ดินที่ขายฝากเพียง 4 คูหา กว้างคูหาละ 5 เมตรลึกไปข้างหลัง 40 เมตร นอกจากนั้นคืนให้แก่โจทก์โดยจำเลยตกลงจะรังวัดแบ่งแยกโอนทะเบียนให้โจทก์ในภายหลัง แต่มิได้แบ่งให้โจทก์ตามสัญญากลับขอให้ทางการออกโฉนดที่ดินทั้งหมดให้แก่จำเลย โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาบังคับให้จำเลยทำการรังวัดแบ่งแยกที่ดินและจดทะเบียนโอนให้โจทก์ตามสัญญา จำเลยให้การว่า สัญญาที่โจทก์ฟ้องเป็นเพียงคำมั่นจะให้ที่ดินแก่โจทก์เพื่อศีลธรรมและมนุษยธรรมเท่านั้น เป็นการให้โดยเสน่หา เอกสารดังกล่าวยังไม่จดทะเบียนโจทก์ไม่มีอำนาจบังคับจำเลย โจทก์อุทธรณ์ |