ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




ผ่อนชำระเงินในคดีอาญาทำให้อายุความสะดุดหยุดลง

ผ่อนชำระเงินในคดีอาญาทำให้อายุความสะดุดหยุดลง

คดีนี้จำเลยว่าจ้างโจทก์ แล้วจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าจ้าง เมื่อถึงกำหนดธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ทำให้หนี้ตามสัญญาจ้างทำของยังไม่ระงับสิ้นไป พนักงานอัยการฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา จำเลยให้การรับสารภาพและตกลงผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โดยได้ผ่อนชำระไปแล้วบางส่วน ภายในกำหนดอายุความ 5 ปี ย่อมมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 โจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากจำเลยไม่ผ่อนชำระหนี้คืนโจทก์อีก นับถึงวันฟ้องยังไม่เกินกำหนดอายุความ 5 ปี ดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความแต่อย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  9053/2552

          จำเลยที่ 1 ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ค่าจ้างให้แก่โจทก์ เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน หนี้ตามสัญญาจ้างทำของจึงยังไม่ระงับสิ้นไป คดีอาญาที่พนักงานอัยการฟ้องจำเลยทั้งสองในความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพและผ่อนชำระหนี้ให้โจทก์แล้วบางส่วน เป็นการชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของนั่นเอง เมื่อได้กระทำภายในกำหนดอายุความ 5 ปี ย่อมมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง โจทก์ฟ้องคดีนี้ภายใน 5 ปี นับจากวันที่จำเลยทั้งสองไม่ผ่อนชำระหนี้คืนโจทก์อีก ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 680,822.91 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 647,052.11 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

          จำเลยทั้งสองให้การว่า ขอให้ยกฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 680,822.91 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 647,052.11 บาท นับแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2545 (วันถัดจากวันฟ้อง) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท

          จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท
          จำเลยทั้งสองฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่โต้เถียงกันในชั้นฎีกาฟังเป็นยุติว่า เมื่อต้นปี 2539 จำเลยที่ 1 ว่าจ้างโจทก์ปักทอตราเสื้อ โจทก์ส่งมอบงานให้แก่จำเลยที่ 1 แล้ว จำเลยที่ 1 ชำระค่าจ้างแก่โจทก์บางส่วน คงเหลือค่าจ้างค้างชำระอีกประมาณ 1,631,332 บาท จำเลยที่ 1 ออกเช็คชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์ 7 ฉบับ รวมเป็นเงิน 1,631,332.07 บาท เมื่อเช็คแต่ละฉบับถึงกำหนดชำระโจทก์เรียกเก็บเงินตามเช็ค แต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธไม่ใช้เงินตามเช็คทั้ง 7 ฉบับ ต่อมาพนักงานอัยการฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแขวงธนบุรีในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ระหว่างพิจารณาจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพและตกลงผ่อนชำระหนี้แก่โจทก์ ตามสำเนารายงานกระบวนพิจารณาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1732/2540 ของศาลแขวงธนบุรี จำเลยทั้งสองชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์ตั้งแต่วันที่ 22 กรกฎาคม 2540 ถึงวันที่ 12 ตุลาคม 2544 หลังจากนั้นก็ไม่ชำระหนี้แก่โจทก์

          ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งสองมีว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ โดยจำเลยทั้งสองฎีกาว่า รายงานกระบวนพิจารณาในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 1732/2540 ของศาลแขวงธนบุรีดังกล่าวไม่ใช่หนังสือรับสภาพหนี้ตามสัญญาจ้างทำของ แต่เป็นการรับที่จะชำระหนี้ตามเช็คพิพาท จึงไม่ทำให้อายุความสะดุดหยุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 (1) เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมวด 5 เรื่อง ความระงับหนี้ มาตรา 321 วรรคสาม บัญญัติว่า ถ้าชำระหนี้ด้วยออก - ด้วยโอน - หรือด้วยสลักหลังตั๋วเงินหรือประทวนสินค้า ท่านว่าหนี้นั้นจะระงับสิ้นไปต่อเมื่อตั๋วเงินหรือประทวนสินค้านั้นได้ใช้เงินแล้ว คดีนี้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 1 ว่าจ้างโจทก์ปักทอตราเสื้อ แล้วจำเลยที่ 1 ออกเช็ค 7 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ค่าจ้างดังกล่าว เมื่อถึงกำหนดธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าว หนี้ตามสัญญาจ้างทำของจึงยังไม่ระงับสิ้นไป และการที่เช็คเรียกเก็บเงินไม่ได้นั้นเป็นเหตุให้พนักงานอัยการฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีอาญาในข้อหาความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 ต่อศาลแขวงธนบุรี ในการพิจารณาคดีดังกล่าว จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพและตกลงผ่อนชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โดยได้ผ่อนชำระไปแล้วบางส่วนตามที่โจทก์ฟ้อง ซึ่งเป็นการชำระหนี้ตามสัญญาจ้างทำของนั่นเอง เมื่อได้กระทำภายในกำหนดอายุความ 5 ปี ย่อมมีผลทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/14 โจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากจำเลยทั้งสองไม่ผ่อนชำระหนี้คืนโจทก์อีก คือวันที่ 12 ตุลาคม 2544 นับถึงวันฟ้องยังไม่เกินกำหนดอายุความดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความแต่อย่างใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น

          พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

 




ระยะเวลา-อายุความ

หนังสือขอชำระหนี้แทน หนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือรับสภาพความรับผิด
อายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ขอเลิกการรับบุตรบุญธรรมรู้
คำให้การไม่ได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความ
อายุความเรียกร้องเอาค่าการงานที่ได้ทำ
ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม |อายุความ
อายุความสัญญากู้กรุงไทยธนวัฏ
คดีขาดอายุความ หรืออายุความสดุดหยุดลง
ชำระหนี้บางส่วน-อายุความสะดุดหยุดลง