ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




หนังสือขอชำระหนี้แทน หนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือรับสภาพความรับผิด

หนังสือขอชำระหนี้แทน  หนังสือรับสภาพหนี้ หนังสือรับสภาพความรับผิด

ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่?  มูลหนี้เดิมของหนังสือรับสภาพหนี้เป็นหนี้ตามเช็คมีอายุความ 1 ปี โจทก์ฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ มีอายุความ 2 ปี แต่หนังสือรับสภาพความรับผิดตาม มาตรา 193/35 ซึ่งมีอายุความ 2 ปี นั้น ต้องเป็นกรณีที่ลูกหนี้เป็นหนี้อยู่ก่อนแล้ว ต่อมาหนี้ขาดอายุความแล้วลูกหนี้มารับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ แต่กรณีในคดีนี้ ลูกหนี้ไม่เคยเป็นหนี้เจ้าหนี้มาก่อนจึงไม่ใช่กรณีที่ลูกหนี้ทำหนังสือรับสภาพความรับผิดซึ่งมีอายุความ 2 ปี แต่เป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้มีอายุความ 10 ปี     

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  9121/2538

 กรณีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/35 ต้องเป็นกรณีที่ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้อยู่ก่อนแล้วต่อมาหนี้ขาดอายุความภายหลังจากนั้นลูกหนี้จึงได้รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือจำเลยไม่เคยเป็นหนี้โจทก์มาก่อน การที่จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ ตามมาตรา 193/35 แต่กรณีเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากบริษัทอื่นมาเป็นจำเลย การฟ้องคดีตาม บันทึกข้อตกลงแปลงหนี้ใหม่ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงมีอายุความสิบปีตามมาตรา 193/30

  โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 จำเลยได้ทำหนังสือขอชำระหนี้แทนบริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่งจำกัด ซึ่งเป็นลูกหนี้ตามสัญญาขายตั๋วเงินของโจทก์ โดยยอมรับว่า ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2529 บริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด ยังเป็นหนี้ตามสัญญาขายลดตั๋วเงินอยู่เป็นต้นเงิน 800,000 บาท และดอกเบี้ย 37,304.11 บาท โดยจำเลยตกลงจะชำระหนี้ทั้งหมดแทน ซึ่งจำเลยได้สัญญาว่าจะชำระดอกเบี้ยที่ค้างชำระให้แก่โจทก์ในวันทำสัญญาและยอมให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2529 เป็นต้นไป และจำเลยจะผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์เป็นรายเดือนในอัตราเดือนละ30,000 บาท เริ่มชำระงวดแรกวันที่ 1 มกราคม 2530 และหากจำเลยผิดนัดงวดหนึ่งงวดใดยินยอมให้โจทก์ดำเนินการฟ้องร้องบังคับคดีได้ทันที หลังจากทำสัญญากันในวันเดียวกันนั้นจำเลยก็ไม่ยอมนำเงินค่าดอกเบี้ยที่ค้างชำระจำนวน 37,304.11 บาท มาชำระให้แก่โจทก์ และต่อมาเมื่อครบกำหนดที่จำเลยจะต้องชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามสัญญาดังกล่าว จำเลยก็ไม่เคยนำเงินมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์ได้ติดต่อทวงถามแล้วแต่จำเลยเพิกเฉย ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ขอคิดค่าเสียหายในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี จากต้นเงิน 800,000บาท นับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2529 จนถึงวันฟ้องคิดเป็นดอกเบี้ย 696,328.76 บาท เมื่อรวมต้นเงินและดอกเบี้ยที่ค้างชำระอยู่ก่อนแล้วเป็นเงินทั้งสิ้น 1,533,632.87 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าว พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน 800,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

          จำเลยให้การว่า มูลหนี้เดิมเป็นหนี้ตามเช็คซึ่งมีอายุความ 1 ปี โจทก์นำหนังสือรับสภาพหนี้มาให้จำเลยลงชื่อเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 โจทก์มาฟ้องคดีเกินกว่า 1 ปีแล้ว คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ อย่างไรก็ดีโจทก์นำคดีมาฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 เมื่อนับถึงวันฟ้องเกิน 2 ปี จึงขาดอายุความเช่นกัน ขอให้ยกฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
          โจทก์อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 800,000 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
          จำเลยฎีกา

          ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงในเบื้องต้นรับฟังเป็นยุติว่า จำเลยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 จำเลยได้ทำหนังสือขอชำระหนี้แทนบริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด โดยยอมรับว่า ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2529 บริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด เป็นหนี้โจทก์ในต้นเงิน 800,000 บาท ดอกเบี้ย 37,304.11 บาท จำเลยจะชำระหนี้ดอกเบี้ยให้โจทก์ในวันทำสัญญาและยอมให้โจทก์คิดดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2529 และตกลงผ่อนชำระเป็นรายเดือนเดือนละ 30,000 บาท เริ่มชำระงวดแรก วันที่ 1 มกราคม 2530 ปรากฏตามหนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.3 จำเลยได้ชำระดอกเบี้ย 37,304.11 บาท ให้ตามที่ตกลงกันแล้ว หลังจากนั้นจำเลยไม่ได้ชำระหนี้ให้โจทก์อีกเลย มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ จำเลยฎีกาว่าโจทก์ฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ซึ่งมาจากการนำเช็คไปแลกเงินอายุความต้องถือหนึ่งปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1002 เมื่อหนังสือรับสภาพหนี้ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 จึงต้องฟ้องภายในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2530 โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2535 จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/15 อย่างไรก็ดีโจทก์ฟ้องโดยอาศัยมูลหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2529 นับถึงวันฟ้องวันที่ 19 สิงหาคม 2535 จึงเกินสองปี ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/35 แล้วนั้น เห็นว่า กรณีที่จะต้องด้วยบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/35 ต้องเป็นกรณีที่ลูกหนี้เป็นหนี้อยู่ก่อนแล้วต่อมาหนี้ขาดอายุความภายหลังจากนั้นลูกหนี้จึงได้รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยไม่เคยเป็นหนี้โจทก์มาก่อน การที่จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.3 ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือตามมาตรา 193/35 ดังที่จำเลยฎีกา แต่กรณีเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้จากบริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่งจำกัด มาเป็นจำเลย การฟ้องคดีตามบันทึกข้อตกลงแปลงหนี้ใหม่ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติกำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 ฟ้องของโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ เมื่อวินิจฉัยดั่งนี้จึงไม่จำต้องวินิจฉัยว่า มูลหนี้เดิมที่บริษัทบางกอกแอร์คราฟท์เอ็นยีเนียริ่ง จำกัด ที่มีต่อโจทก์นั้นเป็นมูลหนี้ตามเช็คหรือสัญญาขายลดเช็ค"

          พิพากษายืน

ป.พ.พ.
มาตรา 249  ลูกหนี้จะเรียกร้องให้ระงับสิทธิยึดหน่วงด้วยหาประกันให้ไว้ตามสมควรก็ได้

มาตรา 193/30  อายุความนั้น  ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี

มาตรา 193/35  ภายใต้บังคับมาตรา 193/27 สิทธิเรียกร้องที่เกิดขึ้นจากการที่ลูกหนี้รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือหรือโดยการให้ประกันตามมาตรา 193/28 วรรคสอง ให้มีกำหนดอายุความสองปีนับแต่วันที่ได้รับสภาพความรับผิดหรือให้ประกัน

 




ระยะเวลา-อายุความ

อายุความหนึ่งปีนับแต่วันที่ผู้ขอเลิกการรับบุตรบุญธรรมรู้
คำให้การไม่ได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความ
ผ่อนชำระเงินในคดีอาญาทำให้อายุความสะดุดหยุดลง
อายุความเรียกร้องเอาค่าการงานที่ได้ทำ
ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม |อายุความ
อายุความสัญญากู้กรุงไทยธนวัฏ
คดีขาดอายุความ หรืออายุความสดุดหยุดลง
ชำระหนี้บางส่วน-อายุความสะดุดหยุดลง