ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




คดีล้มละลายเป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่ง

คดีล้มละลายเป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่ง

ตามหนังสือมอบอำนาจระบุว่าเป็นโจทก์และดำเนินคดียื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง โดยไม่มีข้อความว่ามอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา กรณีนี้ศาลฎีกาเห็นว่า ปรากฏว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายนั้น เป็นหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง โดยโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งสามัญมาแล้ว สำหรับคดีล้มละลายก็เป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่ง แม้โจทก์จะมิได้ระบุให้ชัดแจ้งว่ามอบอำนาจให้ฟ้องคดีล้มละลายก็น่าจะหมายถึงให้ฟ้องคดีล้มละลายได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3653/2542

          หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุมอบอำนาจให้ ป. เป็นโจทก์และดำเนินคดียื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง แต่ปรากฏว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายนั้น เป็นหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง โดยโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งสามัญมาแล้ว โจทก์ไม่มีความจำเป็นต้องฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งสามัญอีก คดีล้มละลายถือเป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่งแม้โจทก์จะมิได้ระบุให้ชัดแจ้งว่ามอบอำนาจให้ฟ้องคดีล้มละลายก็น่าจะหมายถึงให้ฟ้องคดีล้มละลายได้ และการยื่นฟ้องขอให้ล้มละลาย ต้องยื่นต่อศาลซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 150 โจทก์จึงมีอำนาจยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ได้

          โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยล้มละลาย

          จำเลยให้การว่า ตามหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดี โจทก์มิได้มอบอำนาจให้นายประเสริฐ โลหภาษัย เป็นผู้มีอำนาจฟ้องและดำเนินคดีกับจำเลยต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา คำฟ้องจึงไม่สมบูรณ์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14
          จำเลยอุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

          จำเลยฎีกา
          ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 23497/2536 ของศาลแพ่งซึ่งพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 191,250 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2534 จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ หลังจากศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว จำเลยไม่ชำระหนี้และไม่มีทรัพย์สินพอที่จะชำระให้โจทก์ โจทก์ได้มอบอำนาจให้นายประเสริฐ โลหภาษัย ดำเนินคดีแทน ปรากฏตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องหรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 ระบุว่าเป็นโจทก์และดำเนินคดียื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง หาได้มีข้อความว่ามอบอำนาจให้เป็นโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เห็นว่า ตามหนังสือมอบอำนาจเอกสารหมาย จ.2 มีข้อความว่า โจทก์ขอมอบอำนาจให้นายประเสริฐ โลหภาษัย เป็นผู้มีอำนาจเป็นโจทก์และดำเนินคดียื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแพ่ง ปรากฏว่าหนี้ที่โจทก์นำมาฟ้องขอให้จำเลยล้มละลายนั้น เป็นหนี้ตามคำพิพากษาของศาลแพ่ง โดยโจทก์ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งสามัญมาแล้ว โจทก์ไม่มีความจำเป็นต้องฟ้องจำเลยเป็นคดีแพ่งสามัญอีกสำหรับคดีล้มละลายก็เป็นส่วนหนึ่งของคดีแพ่ง แม้โจทก์จะมิได้ระบุให้ชัดแจ้งว่ามอบอำนาจให้ฟ้องคดีล้มละลายก็น่าจะหมายถึงให้ฟ้องคดีล้มละลายได้ และการยื่นฟ้องขอให้ล้มละลายต้องยื่นต่อศาลซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 150 โจทก์จึงมีอำนาจยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีล้มละลายต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งเป็นศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ได้ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษามานั้นชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น"

          พิพากษายืน

หมายเหตุ 

          ในการมอบอำนาจให้ฟ้องร้องดำเนินคดีนั้น นิติสัมพันธ์ระหว่างผู้มอบอำนาจกับผู้รับมอบอำนาจถือว่าเป็นสัญญาตัวแทน (คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3102/2534) เมื่อมีปัญหาจะต้องพิจารณาว่าผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจฟ้องคดีแทนโจทก์หรือไม่จะต้องพิจารณาถึงข้อความในหนังสือมอบอำนาจทั้งฉบับ บางครั้งหนังสือมอบอำนาจอาจจะมีข้อความผิดพลาดไปบ้าง เช่น ระบุชื่อศาลที่จะให้ฟ้องเป็นศาลอื่น สะกดชื่อสกุลจำเลยผิดไป ศาลก็ต้องพิจารณาถึงเจตนาแท้จริง (TrueIntention)ของผู้รับมอบอำนาจและผู้มอบอำนาจ หากว่าเมื่อตรวจหนังสือมอบอำนาจทั้งฉบับแล้วเห็นถึงเจตนาของผู้มอบอำนาจว่ามอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แล้วถือว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องดังเช่น คำพิพากษาศาลฎีกาฉบับนี้

           ก่อนหน้าที่นี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2536 วินิจฉัยว่า โจทก์มอบอำนาจให้ พ. ฟ้องคดีต่อศาลแพ่งโดยระบุในหนังสือมอบอำนาจผิดพลาดไปว่าให้ฟ้องต่อศาลแพ่งธนบุรีการระบุชื่อศาลที่จะฟ้องร้องผิดพลาดเป็นข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจแต่ต่อมาก่อนส่งหมายนัดและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย โจทก์ได้ยื่นใบมอบอำนาจใหม่ระบุว่ามอบอำนาจให้ฟ้องจำเลยทั้งสองต่อศาลแพ่ง ถือได้ว่าโจทก์ได้แก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจดังกล่าว โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง กรณีมีเหตุสงสัยว่าคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองฉบับขัดกันหรือไม่

           ผู้บันทึกเห็นว่าคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองฉบับนี้มิได้ขัดกันแต่อย่างใดเพียงแต่ว่าในการวินิจฉัยในคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองเรื่องได้อาศัยเหตุแห่งคดีและหลักกฎหมายต่างกัน ตามรายละเอียดของประเด็นแห่งคดีในแต่ละคดีที่ขึ้นมาสู่ศาลฎีกา โดยในคำพิพากษาศาลฎีกาที่บันทึกนี้ได้วินิจฉัยโดยตีความการแสดงเจตนาตามหนังสือมอบอำนาจ โดยอาศัยหลักกฎหมายเรื่องการตีความในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาปรับใช้แก่คดี ส่วนในคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2705/2536 นั้น ปรากฏข้อเท็จจริงว่าหลังจากมีการยื่นฟ้องแล้วมีการยื่นหนังสือมอบอำนาจฉบับใหม่เข้ามาซึ่งเป็นการแก้ไขอำนาจฟ้องให้บริบูรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับดังกล่าวนั้นจึงได้วินิจฉัยอำนาจฟ้องของโจทก์โดยอาศัยตามหลักกฎหมายวิธีสบัญญัติเช่นนี้ คำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองฉบับจึงน่าจะใช้เป็นบรรทัดฐานต่อไป

           เอื้อนขุนแก้ว
  
ป.วิ.พ.
มาตรา 47 ถ้าคู่ความหรือบุคคลใดยื่นใบมอบอำนาจต่อศาลให้ศาล มีอำนาจที่จะสั่งให้คู่ความหรือบุคคลนั้น ให้ถ้อยคำสาบานตัวว่าเป็น ใบมอบอำนาจอันแท้จริง
--ถ้าศาลมีเหตุอันควรสงสัยว่า ใบมอบอำนาจที่ยื่นนั้นจะไม่ใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริงก็ดี หรือเมื่อคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งยื่นคำร้องแสดงเหตุอันควรสงสัยว่าใบมอบอำนาจนั้นจะมิใช่ใบมอบอำนาจอันแท้จริงก็ดี ให้ศาลมีอำนาจที่จะสั่งให้คู่ความหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น ยื่นใบมอบอำนาจตามที่บัญญัติไว้ต่อไปนี้
---ถ้าใบมอบอำนาจนั้นได้ทำในราชอาณาจักรสยามต้องให้นายอำเภอเป็นพยาน ถ้าได้ทำในเมืองต่างประเทศที่มีกงสุลสยาม ต้องให้กงสุลนั้น เป็นพยานถ้าได้ทำในเมืองต่างประเทศที่ไม่มีกงสุลสยาม ต้องให้บุคคล เหล่านี้เป็นพยานคือเจ้าพนักงานโนตารีปับลิกหรือแมยิสเตร็ด หรือ บุคคลอื่นซึ่งกฎหมายแห่งท้องถิ่นตั้งให้เป็นผู้มีอำนาจเป็นพยานในเอกสารเช่นว่านี้ และต้องมีใบสำคัญของรัฐบาลต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องแสดงว่าบุคคลที่เป็นพยานนั้นเป็นผู้มีอำนาจกระทำการได้
----บทบัญญัติแห่ง มาตรานี้ ให้ใช้บังคับแก่ใบสำคัญและเอกสารอื่น ๆ ทำนองเช่นว่ามานี้ ซึ่งคู่ความจะต้องยื่นต่อศาล

มาตรา 55 เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น เกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่ง หรือบุคคลใดจะต้องใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจได้ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายแพ่งและประมวลกฎหมายนี้

พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483
มาตรา 150 การยื่นคำฟ้องหรือคำร้องขอให้ล้มละลายให้ยื่นต่อศาลซึ่งลูกหนี้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตหรือประกอบธุรกิจอยู่ในเขต ไม่ว่าด้วยตนเองหรือโดยตัวแทนในขณะที่ยื่นคำฟ้องหรือคำร้องขอหรือภายในกำหนดเวลาหนึ่งปีก่อนนั้น  




สัญญาตัวแทน

หนังสือมอบอำนาจฟ้องคดีทำไว้ก่อนมีมูลหนี้
นายจ้างเป็นนิติบุคคลให้หมายความรวมถึงผู้มีอำนาจกระทำการแทนนิติบุคคล
ตัวการฟ้องเรียกทรัพย์สินคืนจากตัวแทน
กรรมการเป็นตัวแทนเชิดของบริษัท