ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
dot
Newsletter

dot




ทายาทยอมรับสภาพหนี้ของผู้ตาย

ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ

(ยินดีให้คำปรึกษากฎหมาย ติดต่อทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258

ติดต่อทางอีเมล  : leenont0859604258@yahoo.co.th )

 

ทายาทยอมรับสภาพหนี้ของผู้ตาย-ไม่ถือว่าเป็นลูกหนี้แทนผู้ตาย


ในฐานะผู้จัดการมรดกและทายาทของผู้ตายยอมรับสภาพหนี้ของผู้ตายต่อโจทก์นั้น ไม่อาจถือว่าได้ยอมเข้าผูกพันตนเป็นลูกหนี้แทนในลักษณะแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ ดังนั้นผู้จัดการมรดกจึงมิใช่ลูกหนี้โดยตรงของโจทก์แม้มีสิทธิรับมรดกแต่ก็รับผิดไม่เกินทรัพย์มรดกที่ตกทอดแก่ตน โจทก์จะนำหนี้ของผู้ตายมาฟ้องผู้จัดการมรดกให้ล้มละลายไม่ได้ แต่ชอบที่จะฟ้องขอให้จัดการทรัพย์มรดกของผู้ตายตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3242/2543

          ตามหนังสือรับสภาพหนี้เป็นเพียงจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จัดการมรดกและทายาทของ ด. ยอมรับสภาพหนี้ของ ด. ต่อโจทก์ หากจะมีผลผูกพันจากการรับสภาพหนี้ กองมรดกของ ด. เท่านั้นที่จะต้องรับผิดในหนี้สินตามหนังสือรับสภาพหนี้ ไม่อาจถือได้ถึงขนาดว่าจำเลยที่ 4 ยอมเข้าผูกพันตนเป็นลูกหนี้แทนในลักษณะแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ โจทก์จึงนำหนี้ตามฟ้องมาฟ้องจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จัดการมรดกของ ด. ให้ล้มละลายไม่ได้ชอบที่จะฟ้องขอให้จัดการทรัพย์มรดกของ ด. ตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ ต่อไป
________________________________

          โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นหนี้โจทก์ จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยที่ 1 ร่วมกับจำเลยที่ 3 และนายแดง หลิมสกุลค้ำประกันหนี้ของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายแดงได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้โดยยินยอมรับผิดชำระหนี้แทนจำเลยที่ 1ตามภาระการค้ำประกันที่นายแดงมีต่อโจทก์ เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดนัดชำระหนี้โจทก์มีหนังสือทวงถาม จำเลยทั้งสี่ได้รับหนังสือทวงถามจากโจทก์ให้ชำระหนี้แล้วไม่น้อยกว่า 2 ครั้ง ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันไม่น้อยกว่า 30 วัน แต่จำเลยทั้งสี่ไม่ชำระหนี้ทั้งไม่มีทรัพย์สินอย่างหนึ่งอย่างใดที่จะพึงยึดมาชำระหนี้ได้พฤติการณ์มีเหตุให้สันนิษฐานตามกฎหมายว่าจำเลยทั้งสี่มีหนี้สินล้นพ้นตัวขอให้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยทั้งสี่เด็ดขาดและพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ล้มละลาย

          จำเลยทั้งสี่ไม่ยื่นคำให้การ

          ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ตามมาตรา 14 ให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยหักจากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 และที่ 2 เฉพาะค่าทนายความให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์กำหนดตามที่เห็นสมควร ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 3 และที่ 4 ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 3 และที่ 4 ให้เป็นพับ

          โจทก์ จำเลยที่ 1 และที่ 2 อุทธรณ์

          ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

          โจทก์ฎีกา
          ศาลฎีกาแผนกคดีล้มละลายวินิจฉัยว่า "ตามหนังสือรับสภาพหนี้เอกสารหมาย จ.4 เป็นเพียงจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จัดการมรดกและทายาทของนายแดงยอมรับสภาพหนี้ของนายแดงต่อโจทก์ หากจะมีผลผูกพันจากการรับสภาพหนี้ กองมรดกของนายแดงเท่านั้นที่จะต้องรับผิดในหนี้สินตามที่ปรากฏในหนังสือรับสภาพหนี้ไม่อาจถือได้ถึงขนาดว่าจำเลยที่ 4 ยอมเข้าผูกพันตนเป็นลูกหนี้แทนในลักษณะแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้ดังที่โจทก์ฎีกา จำเลยที่ 4 จึงมิใช่ลูกหนี้โดยตรงของโจทก์แม้จำเลยที่ 4 จะเป็นทายาทมีสิทธิรับมรดกแต่ก็รับผิดไม่เกินทรัพย์มรดกที่ตกทอดแก่ตน โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ไม่อาจก้าวล่วงไปบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 4 ที่มิใช่ทรัพย์มรดก ประกอบกับหนี้ตามฟ้องเป็นหนี้ที่นายแดงก่อขึ้นเองหากนายแดงยังคงมีชีวิตอยู่ นายแดงอาจถูกฟ้องขอให้ล้มละลายได้นายแดงจึงมีหน้าที่และความรับผิดตามกฎหมายล้มละลายต่อโจทก์และเป็นหน้าที่และความรับผิดโดยเฉพาะของนายแดงไม่ใช่เป็นมรดกที่จะตกทอดแก่จำเลยที่ 4 ผู้เป็นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของนายแดง โจทก์จึงนำหนี้ตามฟ้องมาฟ้องจำเลยที่ 4 ในฐานะผู้จัดการมรดกของนายแดงให้ล้มละลายไม่ได้ แต่ชอบที่จะฟ้องขอให้จัดการทรัพย์มรดกของนายแดงตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 82

          สำหรับจำเลยที่ 3 ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 3 มีหนี้สินล้นพ้นตัวไม่อาจชำระหนี้โจทก์ได้ทั้งหมด ทั้งไม่มีเหตุอื่นที่ไม่ควรให้จำเลยที่ 3 ล้มละลายที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน"

          พิพากษาแก้เป็นว่า ให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 3 เด็ดขาดตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 14 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

( พิชัย เตโชพิทยากูล - จำลอง สุขศิริ - อภิศักดิ์ พรวชิราภา )

 พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483
มาตรา 82 ในกรณีที่ลูกหนี้ตาย หากปรากฏว่าถ้าลูกหนี้ยังคงมีชีวิตอยู่ เจ้าหนี้อาจฟ้องให้ล้มละลายได้แล้ว เจ้าหนี้อาจฟ้องขอให้จัดการทรัพย์มรดกของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัตินี้ได้ แต่ต้องยื่นคำฟ้องต่อศาลภายในกำหนดหนึ่งปีนับแต่วันที่ลูกหนี้ตาย

 

 

 

 

ขณะสู่ขอไม่มีการตกลงเรื่องจดทะเบียนสมรส
แจ้งความว่าหญิงคู่หมั้นหลอกลวงไม่ยอมจดทะเบียนสมรสด้วย จัดงานแต่งใหญ่โต คู่หมั้นมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว การเลิกราเป็นที่อับอายแก่หญิงมากกว่า เวลาไปสู่ขอก็ไม่ได้ตกลงกันว่าจะไปจดทะเบียนสมรสกันเมื่อใด จึงถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดของหญิงคู่หมั้น เพราะคู่หมั้นไม่ได้ถือเอาการจดทะเบียนสมรสเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่จะได้อยู่กินกันฉันสามีภริยาเท่านั้น ชายจึงไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญาหมั้นและเรียกสินสอดและของหมั้นคืนได้
http://www.peesirilaw.com/การสมรสและการหมั้น/เรียกคืนของหมั้นและสินสอด.html

 

 

ห้ามทำการเป็นทนายความ  นักโทษด้วยกันเรียงอุทธรณ์ให้
ถ้าจำเลยซึ่งเป็นตัวความจะทำฟ้องอุทธรณ์ด้วยตนเอง นำมายื่นต่อศาลย่อมทำได้ไม่มีอะไรห้าม การที่จำเลยให้ผู้ต้องขังชายบุญรอดซึ่งต้องขังอยู่ในเรือนจำทำแทนให้ และลงลายมือชื่อไว้ทั้งในช่องผู้เรียงและผู้พิมพ์เป็นการให้เห็นได้อยู่ในตัวตามถ้อยคำ กล่าวคือว่าอุทธรณ์ของจำเลย ดังกล่าวมีผู้ต้องขังชายบุญรอดเป็นผู้แต่ง เพราะคำว่า "แต่ง" กับ "เรียง" นั้น ตามพจนานุกรมมีความหมายเหมือนกัน จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 มาตรา 33
http://www.peesirilaw.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538681919&Ntype=41

 

 

ใช้ทางอย่างเป็นปรปักษ์กับใช้ทางเป็นการวิสาสะ
การใช้ทางแบบคุ้นเคยกันในลักษณะเพื่อนบ้านที่ต่างพื่งพาอาศัยกันและเป็นการได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่ดินแล้วแม้จะได้นำดินลูกรังและหินมาถมในทางพิพาทตลอดมาทุกปีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากใครก็ตาม ก็เป็นการกระทำเพื่อความสะดวกของผู้ใช้ทางเท่านั้น พฤติการณ์ถือได้ว่าเป็นการถือวิสาสะในการใช้ทางไม่ใช่เป็นการแสดงเจตนาที่จะใช้ทางอย่างเป็นปรปักษ์ แม้จะได้ใช้ทางมานานเกิน 10 ปี ก็ไม่ทำให้ทางพิพาทตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินของตนได้
http://www.peesirilaw.com/ครอบครองปรปักษ์/ปรปักษ์กับการวิสาสะ.html

 


ภาระจำยอมที่เกิดจากการจัดสรรที่ดินขาย
เจ้าของโครงการจัดสรรที่ดินได้กันทางเดินพิพาทไว้เป็นทางเข้าออกสำหรับตึกแถวที่แบ่งขายในการก่อสร้างตึกแถวเจ้าของโครงการได้ก่อสร้างตึกแถวทำกันสาดปูนซิเมนต์รุกล้ำเข้าไปในที่ดินแปลงที่เป็นทางเดินยื่นออกไป 1.5 เมตรต่อมาเจ้าของโครงการถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลาย โจทก์ในคดีนี้ซื้อที่ดินทางเดินจากการขายทอดตลาดและฟ้องขับไล่ผู้ซื้อตึกแถวศาลฎีกาเห็นว่าทางเดินตกเป็นภาระจำยอมแก่ที่ดินจัดสรรโดยผลของกฎหมายแล้วรวมถึงกันสาดที่ยื่นออกไปด้วย
http://www.peesirilaw.com/ครอบครองปรปักษ์/ภาระจำยอมที่เกิดจากการจัดสรรที่ดินขาย.html

 


การครอบครองปรปักษ์ขาดตอนเมื่อเปลี่ยนเจ้าของ
การนับระยะเวลาครอบครองปรปักษ์ถือเอาระยะเวลาครอบครองของฝ่ายผู้ครอบครองที่ต้องครอบครองติดต่อกัน ไม่ต้องพิจารณาถึงตัวเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกครอบครองว่าจะได้โอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้อื่นหรือไม่ และไม่จำต้องถือเอาทางฝ่ายเจ้าของอสังหาริมทรัพย์แต่ละคนที่รับโอนกรรมสิทธิ์มาเป็นเกณฑ์ในการเริ่มนับระยะเวลาครอบครองใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนตัวเจ้าของหากบุคคลภายนอกรับโอนโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนสิทธิโดยสุจริต
http://www.peesirilaw.com/ครอบครองปรปักษ์/การครอบครองปรปักษ์ขาดตอน.html

 

 

เจ้าของที่ดินมีสิทธิสร้างแผงร้านค้าบนทางภาระจำยอมหรือไม่?
สภาพของที่ดินภาระจำยอมใช้เป็นเพียงทางเดินเท่านั้น รถยนต์ไม่สามารถเข้าออกได้เพราะมีขั้นบันไดลงไปสู่ถนนสาธารณะ การที่เจ้าของที่ดินสร้างแผงร้านค้าโดยเว้นทางเท้าไว้ถึง 2.50 เมตร จึงไม่ทำให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกหรือไม่? ศาลเห็นว่าทางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินที่ตกอยู่ในภาระจำยอมแก่ที่ดินของผู้อื่นนั้นเป็นทางที่ใช้สัญจรอยู่ในโครงการหมู่บ้านและที่ดินจัดสรร ดังนั้น ไม่ว่ารถยนต์จะสามารถเข้าออกทางได้หรือไม่ก็ตาม
http://www.peesirilaw.com/ครอบครองปรปักษ์/เจ้าของที่ดินมีสิทธิสร้างแผงร้านค้าบนทางภาระจำยอมหรือไม่.html

 

ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ 0859604258  *  www.peesirilaw.com  *


 




แปลงหนี้ใหม่

มิได้เป็นการยกเลิกหลักประกัน
หนังสือรับสภาพหนี้ไม่ใช่เป็นการแปลงหนี้ใหม่