
สอบถามเรื่องสัญญาจ้างงาน | |
สวัสดีคะ ดิฉันมีเรื่องจะปรึกษาคะ ขอเกริ่นเรื่องก่อน ดิฉันเข้ามาทำงานในบิรษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบริษัทเปิดใหม่ โรงงานยังสร้างไม่เสร็จ ยังไม่มีฝ่ายบุคคล ก็ทำงานในฐานะล่ามมาประมาณหนึ่งเดือนกว่า ทางบริษัทบอกว่าจะส่งมาญี่ปุ่นเพราะจะมีพนักงานฝึกงานไปญี่ปุ่นกันหมดเลย แล้วเค้าก็ให็เซ็นต์สัญญาสองตัว ตัวแรกเป็นสัญญาจ้างเป็นภาษาญี่ปุ่น บอกเงินเดือน สวัสดิการเล็กน้อย แล้วก็ชื่อผู้จ้าง ชื่อผู้ถูกว่าจ้าง แล้วก็เซ็นต์ชื่อเรา ตัวที่สองคือสัญญาบอกว่าเราจะทำงานให้บริษัทสองปีหลังจากกลับมาที่ไทยแล้ว ถ้าออกก่อนเราต้องชดใช้ค่าฝึกงานทั้งหมดตามที่เค้าเสียไประบุจำนวนเงินไว้ (ซึ่งไม่เท่าตามที่ได้รับจริง) เซ็นต์ชื่อตัวเอง แต่ไม่มีลายเซ็นต์พยาน และมีตัวจริงแค่ฉบับเดียวที่บริษัทเก็บไว้ เค้าบอกว่าสิ้นปีจะมีสัญญาจ้างตัวเต็มให้เราเซ็นต์อีกที ตอนก่อนที่จะทำงานตกลงกันไว้ว่าจะทำงานวันจันทร์ถึงศุกร์ แล้วพอตอนนี้ดิฉันไปถามว่าวันปิยะ กับวันพ่อทางบริษัทจะหยุดให้มั๊ย สรุปก็ไม่หยุด และบอกว่าต่อจากนี้ ปีไหนๆ ก็ไม่หยุด เค้าให้เหตุผลว่า ก็เอาวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไปหยุดแทนวันเสาร์ให้แล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้วันหยุดตามประเพณี แต่เราจะได้หยุดวันเสาร์แทน เราก็งงว่าเอ๊ะ ตอนแรกตกลงกันไว้ว่าจะทำจันทร์ถึงศุกร์ ถ้างั้นวันเสาร์ถ้าทำต้องเป็นโอที สิ แต่พอมาทบกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ กลายเป็นว่าเราไม่ได้ โอที อะไรเลย เค้าอ้างว่าอ้างอิงตามปฎิทินของบริษัทลูกค้ารายใหญ่ แต่พอเราได้เห็นปฎิทินของบริษัทลูกค้าเราแล้ว ปรากฏว่าทำงานจันทร์ถึงศุกร์ หยุดตามประเพณีปกติ มีทำงานวันเสาร์ 1 ปี มีหกวัน ในสัญญาก็ไม่ได้ระบุไว้ด้วยว่าทำงานวันไหนบ้าง เวลาเท่าไหร่ ค่าโอทีก็ไม่ได้เขียนบอก ในสัญญามาญี่ปุ่นก็ไม่มีระบุจำนวนเดือนที่มา และสัญญามาญี่ปุ่นนั้นเป็นสัญญาสำหรับมาฝึกงาน แต่ด้วยหน้าที่ที่ดิฉันมาทำเป็นล่ามนั้น เป็นการทำงานไม่ใช่การฝึกงานคะ คือการมาล่ามให้คนไทยที่มาฝึกงาน ดิฉันขอถามว่า 1. สัญญาที่มีรายละเอียดระบุไม่ชัดเจน ไม่มีเวลาทำงาน ไม่มีลายเซ้นต์พยาน และสัญญามาญี่ปุ่นนั้นเป็นของคนที่มาฝึกงาน (แต่ดิฉันมาทำงานในฐานะล่าม) จำนวนเงินที่ระบุไม่เท่ากับที่ได้รับ ลาป่วยมีใบรับรองแพทย์แต่โดนหักเงิน จะเป็นโมฆะได้มั๊ยคะ 2. ถ้าตามที่ตกลงกันไว้ว่าทำงานจันทร์ถึงศุกร์ แต่อยู่ๆดี เค้ามาเปลี่ยนเป็นทำวันเสาร์ด้วย (อาจจะเสาร์ เว้นเสาร์ หรืออาจจะถี่กว่า) แล้วบอกว่าจะให้มาทำงานวันหยุดนักขัตฤกษ์แทน แต่จะหยุดวันเสาร์ให้ อย่างนี้ถือว่าเค้าผิดสัญญาหรือเปล่าคะ ถ้าสมมุติเราไม่ยอม เราฟ้องศาลแรงงานได้หรือไม่ แล้วจะคำพูดเราจะมีน้ำหนักมั๊ย ในเมื่อตกลงกันปากเปล่า
ขอบคุณล่วงหน้าคะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ Hane :: วันที่ลงประกาศ 2013-10-23 17:06:54 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3378330) | |
1. สัญญาที่มีรายละเอียดระบุไม่ชัดเจน ไม่มีเวลาทำงาน ไม่มีลายเซ้นต์พยาน และสัญญามาญี่ปุ่นนั้นเป็นของคนที่มาฝึกงาน (แต่ดิฉันมาทำงานในฐานะล่าม) จำนวนเงินที่ระบุไม่เท่ากับที่ได้รับ ลาป่วยมีใบรับรองแพทย์แต่โดนหักเงิน จะเป็นโมฆะได้มั๊ยคะ 2. ถ้าตามที่ตกลงกันไว้ว่าทำงานจันทร์ถึงศุกร์ แต่อยู่ๆดี เค้ามาเปลี่ยนเป็นทำวันเสาร์ด้วย (อาจจะเสาร์ เว้นเสาร์ หรืออาจจะถี่กว่า) แล้วบอกว่าจะให้มาทำงานวันหยุดนักขัตฤกษ์แทน แต่จะหยุดวันเสาร์ให้ อย่างนี้ถือว่าเค้าผิดสัญญาหรือเปล่าคะ ถ้าสมมุติเราไม่ยอม เราฟ้องศาลแรงงานได้หรือไม่ แล้วจะคำพูดเราจะมีน้ำหนักมั๊ย ในเมื่อตกลงกันปากเปล่า
มาตรา 23 ให้นายจ้างประกาศเวลาทำงานปกติให้ลูกจ้าง ทราบโดยกำหนดเวลาเริ่มต้นและเวลาสิ้นสุดของการทำงานแต่ละวัน ของลูกจ้างได้ไม่เกินเวลาทำงานของแต่ละประเภทงาน ตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง แต่วันหนึ่งต้องไม่เกินแปดชั่วโมงและเมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งต้องไม่เกินสี่สิบแปดชั่วโมง เว้นแต่ งานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้างที่ กำหนดในกฎกระทรวง จะมีเวลาทำงานปกติวันหนึ่งต้องไม่เกิน เจ็ดชั่วโมง แต่เมื่อรวมเวลาทำงานทั้งสิ้นแล้วสัปดาห์หนึ่งไม่เกิน สี่สิบสองชั่วโมง มาตรา 24 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลาในวัน ทำงาน เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากลูกจ้างก่อนเป็นคราว ๆ ไป มาตรา 25 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานในวันหยุด เว้นแต่ในกรณีที่ลักษณะหรือสภาพของงานต้องทำติดต่อกันไป ถ้าหยุดจะเสียหายแก่งาน หรือเป็นงานฉุกเฉิน นายจ้างอาจให้ ลูกจ้างทำงานในวันหยุดได้เท่าที่จำเป็น มาตรา 26 ชั่วโมงทำงานล่วงเวลาตาม มาตรา 24 วรรคหนึ่ง และชั่วโมงทำงานในวันหยุดตาม มาตรา 25 วรรคสอง และวรรคสาม เมื่อรวมแล้วจะต้องไม่เกินอัตราตามที่กำหนดใน กฎกระทรวง มาตรา 27 ในวันที่มีการทำงาน ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้าง มีเวลาพักระหว่างการทำงานวันหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งชั่วโมงหลัง จากที่ลูกจ้างทำงานมาแล้วไม่เกินห้าชั่วโมงติดต่อกัน นายจ้าง และลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้าให้มีเวลาพักครั้งหนึ่งน้อยกว่า หนึ่งชั่วโมงได้ แต่เมื่อรวมกันแล้ววันหนึ่งต้องไม่น้อยกว่าหนึ่ง ชั่วโมง มาตรา 28 ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างมีวันหยุดประจำสัปดาห์ สัปดาห์หนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งวันโดยวันหยุดประจำสัปดาห์ต้องมี ระยะห่างกันไม่เกินหกวัน นายจ้างและลูกจ้างอาจตกลงกันล่วงหน้ากำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์วันใดก็ได้ มาตรา 29 ให้นายจ้างประกาศกำหนดวันหยุดตามประเพณีให้ลูกจ้างทราบเป็นการล่วงหน้าปีหนึ่งไม่น้อยกว่า สิบสามวันโดยรวมวันแรงงานแห่งชาติตามที่รัฐมนตรี ประกาศกำหนด มาตรา 30 ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบหนึ่งปีมี สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ปีหนึ่งไม่น้อยกว่าหกวันทำงานโดยให้ นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้าหรือ กำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน มาตรา 31 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา หรือทำงานในวันหยุดในงานที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความ ปลอดภัยของลูกจ้างตาม มาตรา 23 วรรคหนึ่ง มาตรา 32 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยได้เท่าที่ป่วยจริง การลาป่วยตั้งแต่สามวันทำงานขึ้นไปนายจ้างอาจให้ลูกจ้างแสดงใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาล ของทางราชการในกรณีที่ลูกจ้างไม่อาจแสดงใบรับรองของแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งหรือของสถานพยาบาลของทางราชการได้ ให้ลูกจ้างชี้แจงให้นายจ้างทราบ มาตรา 33 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อทำหมันได้และมีสิทธิลา เนื่องจากการทำหมันตามระยะเวลาที่แพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่ง กำหนดและออกใบรับรอง มาตรา 34 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน มาตรา 35 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อรับราชการทหารในการ เรียกพลเพื่อตรวจสอบ เพื่อฝึกวิชาทหาร หรือเพื่อทดลองความ พรั่งพร้อมตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร มาตรา 36 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อการฝึกอบรมหรือพัฒนา ความรู้ความสามารถตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎ กระทรวง มาตรา 37 ห้ามมิให้นายจ้างให้ลูกจ้างทำงานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือเข็นของหนักเกินอัตราน้ำหนักตามที่ กำหนดในกฎกระทรวง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-10-24 17:24:17 |
[1] |