รอการลงโทษจำคุก ลักทรัพย์นายจ้าง | |
พนักงานอัยการ ฟ้องว่า ลักทรัพย์นายจ้าง ให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหาย 500,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ผู้เสียหายแถลงศาลไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลยทั้งทางแพ่งและทางอาญา ศาลชั้นต้น พิพากษาจำคุกโดยให้รอการลงโทษจำคุก ให้จำเลยใช้ราคา 500,000 บาท ในกรณีที่ผู้เสียหายไม่ติดใจเรียกเอาค่าเสียหายในทางแพ่ง จำเลยจะอุทธรณ์ ฎีกา ขอให้ยกคำขอของพนักงานอัยการ ที่ขอให้จำเลยใช้ราคาทรัพย์แก่ผู้เสียหายได้หรือไม่
| |
ผู้ตั้งกระทู้ ** :: วันที่ลงประกาศ 2010-10-15 16:24:46 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3255488) | |
ในเรื่องนี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาวินิจฉัยไว้ดังนี้ เมื่อผู้เสียหายไม่ประสงค์จะให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำความผิดแล้ว ก็ไม่อาจจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์อีก ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบมาตรา 225 คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7815/2552 คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยลักท่อพีอี (ท่อส่งน้ำ) ที่เป็นของผู้มีอาชีพกสิกรรม แต่ไม่ได้บรรยายฟ้องว่า ทรัพย์ที่ถูกลักไปนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ พืชพันธ์ สัตว์ หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้มาจากการกสิกรรมตามที่บัญญัติไว้ใน ป.อ. มาตรา 335 (12) เพราะลำพังการลักทรัพย์อื่นของผู้มีอาชีพกสิกรรมย่อมไม่เป็นความผิดตามอนุมาตรานี้ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 335 (12) จึงไม่ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225 โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 334, 335 (7) (11) (12) ให้จำเลยคืนทรัพย์หรือชดใช้ราคาเป็นเงิน 500,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (7) (11) (12) วรรคสอง จำคุก 2 ปี และปรับ 8,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 4,000 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 1 ปี ตามมาตรา 56 หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา 29, 30 ให้จำเลยคืนหรือชดใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 500,000 บาท แก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่ลงโทษปรับและไม่รอการลงโทษจำคุกนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักทรัพย์ของผู้เสียหายซึ่งมีอาชีพกสิกรรม โดยมิได้บรรยายว่า ทรัพย์ดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์พืชพันธ์ สัตว์ หรือเครื่องมืออันมีไว้สำหรับประกอบกสิกรรมหรือได้จากการทำกสิกรรมนั้นตามที่ได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (12) เพราะลำพังการลักทรัพย์อื่นของผู้มีอาชีพกสิกรรมย่อมไม่เป็นความผิดตามอนุมาตรานี้ ดังนั้น ที่ศาลล่างปรับบทลงโทษจำเลยตามมาตรา 335 (12) ด้วย ย่อมไม่ถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นแก้ไขให้ถูกต้องได้ สำหรับปัญหาในชั้นฎีกาของจำเลยที่ขอให้รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยนั้น เห็นว่า จำเลยลักทรัพย์นายจ้างแม้พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แต่ได้ความจากคำร้องขอถอนคำให้การเดิมเป็นให้การรับสารภาพของจำเลยลงวันที่ 17 กรกฎาคม 2550 กับรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยว่าจำเลยไม่เคยมีประวัติการกระทำความผิดใด ๆ มาก่อน ผู้เสียหายมอบหมายให้จำเลยเป็นผู้จัดการไร่ดูแลไร่ของผู้เสียหายซึ่งมีจำนวนหลายร้อยไร่มาหลายปี จำเลยปฏิบัติหน้าที่ด้วยดีตลอดมา เพิ่งจะมีปัญหาคดีนี้ แต่ผู้เสียหายก็ปรับความเข้าใจกับจำเลยได้แล้ว ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีกับจำเลยต่อไป ทั้งยังให้จำเลยทำงานกับผู้เสียหายต่อไปเช่นเดิมอีกด้วย จำเลยมีอายุ 45 ปีแล้ว การดำรงชีวิตที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่ามีนิสัยและความประพฤติในทางเสื่อมเสีย จำเลยมีครอบครัวและมีบุตร 3 คน ดังนั้น สาเหตุที่กระทำความผิดน่าจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คดีมีเหตุอันควรปรานีโดยรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ฎีกาของจำเลยฟังขึ้น อนึ่ง เมื่อผู้เสียหายไม่ประสงค์จะให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายจากการกระทำความผิดแล้ว ก็ไม่อาจจะสั่งให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์อีก ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 ประกอบมาตรา 225 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (12) ให้ลงโทษและรอการลงโทษจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและให้ยกคำขอที่ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์เป็นเงิน 500,000 บาท แก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-10-15 16:28:30 |
[1] |