
หมวด 3 ผลและการตีความแห่งพินัยกรรม มาตรา 1673 ถึง มาตรา 1685
หมวด 3 ผลและการตีความแห่งพินัยกรรม
มาตรา 1673 สิทธิและหน้าที่ใด ๆ อันเกิดขึ้นตามพินัยกรรมให้ มีผลบังคับเรียกร้องกันได้ตั้งแต่ผู้ทำพินัยกรรมตายเป็นต้นไป เว้นแต่ ผู้ทำพินัยกรรมจะได้กำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาให้มีผลบังคับเรียก ร้องกันได้ภายหลัง
มาตรา 1674 ถ้าข้อกำหนดพินัยกรรมมีเงื่อนไข และเงื่อนไขนั้น สำเร็จเสียก่อนเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย หากว่าเป็นเงื่อนไขบังคับ ก่อนข้อกำหนดพินัยกรรมนั้นมีผลเมื่อผู้ทำพินัยกรรมตาย หากว่าเป็น เงื่อนไขบังคับหลัง ข้อกำหนดพินัยกรรมนั้นเป็นอันไร้ผล ถ้าเงื่อนไขบังคับก่อนสำเร็จภายหลังที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย ข้อ กำหนดพินัยกรรมมีผลตั้งแต่เวลาเงื่อนไขสำเร็จ ถ้าเงื่อนไขบังคับหลังสำเร็จภายหลังที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย ข้อ กำหนดพินัยกรรมมีผลตั้งแต่เวลาที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย แต่ตกเป็น อันไร้ผลในเมื่อเงื่อนไขนั้นสำเร็จ แต่ถ้าผู้ทำพินัยกรรมได้กำหนดไว้ในพินัยกรรมว่า ในกรณีที่กล่าวมาในสองวรรคก่อนนั้น ให้ความสำเร็จแห่งเงื่อนไขมีผลย้อนหลังไป ถึงเวลาที่ผู้ทำพินัยกรรมตาย ก็ให้เป็นไปตามเจตนาของผู้ทำพินัยกรรม นั้น
มาตรา 1675 เมื่อพินัยกรรมมีเงื่อนไขบังคับก่อน ผู้รับประโยชน์ ตามข้อความแห่งพินัยกรรมนั้นจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการทรัพย์สิน ที่ยกให้โดยพินัยกรรมนั้นจนกว่าจะถึงเวลาที่เงื่อนไขสำเร็จหรือจนกว่า ความสำเร็จเงื่อนไขตกเป็นอันพ้นวิสัยก็ได้ ถ้าศาลเห็นเป็นการสมควร จะตั้งผู้ร้องนั้นเป็นผู้จัดการทรัพย์สินเสียเอง และเรียกให้ผู้ร้องนั้นวางประกันตามที่สมควรก็ได้
มาตรา 1676 พินัยกรรมจะทำขึ้นโดยให้บุคคลใดตกอยู่ในภาระติดพันที่จะต้องก่อตั้งมูลนิธิ หรือจะสั่งจัดสรรทรัพย์สินไว้โดยตรง เพื่อ ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามบทบัญญัติ มาตรา 110 แห่งประมวล กฎหมายนี้ก็ได้ (พินัยกรรมให้บุคคลตกอยู่ในภาระติดพัน-คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 581/2508) มาตรา 1677 เมื่อมีพินัยกรรมก่อตั้งมูลนิธิขึ้นตาม มาตรา ก่อนให้เป็น หน้าที่ของทายาทหรือผู้จัดการมรดกแล้วแต่กรณีที่จะต้องร้องขอให้ รัฐบาลให้อำนาจจัดตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลตาม มาตรา 114 แห่งประมวลกฎหมายนี้ เว้นแต่จะได้มีข้อกำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ถ้าบุคคลดั่งกล่าวแล้วมิได้ร้องขอให้รัฐบาลให้อำนาจ บุคคลผู้มีส่วน ได้เสียคนหนึ่งคนใดหรือพนักงานอัยการจะเป็นผู้ร้องขอก็ได้
มาตรา 1678 เมื่อมูลนิธิใดซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยพินัยกรรมได้ตั้งขึ้นเป็นนิติบุคคลแล้ว ให้ถือว่าทรัพย์สินซึ่งผู้ทำพินัยกรรมจัดสรรไว้เพื่อการนั้น ตกเป็นของนิติบุคคลนั้นตั้งแต่เวลาซึ่งพินัยกรรมมีผล เว้นแต่จะมีข้อ กำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น
มาตรา 1679 ถ้าจัดตั้งมูลนิธิขึ้นไม่ได้ตามวัตถุที่ประสงค์ ให้ทรัพย์สิน ตกทอดไปตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม ถ้าพินัยกรรมไม่ได้ระบุไว้ เมื่อทายาทหรือผู้จัดการมรดก หรือ พนักงานอัยการ หรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสียคนใดคนหนึ่งร้องขอ ให้ ศาลจัดสรรทรัพย์สินนั้นให้แก่นิติบุคคลอื่น ซึ่งปรากฏว่ามีวัตถุที่ ประสงค์ใกล้ชิดที่สุดกับความประสงค์ของผู้ทำพินัยกรรม ถ้าหากว่าจัดสรรทรัพย์สินอย่างนี้ไม่ได้ดี หรือว่ามูลนิธินั้นตั้งขึ้น ไม่ได้เพราะเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันของประชาชนก็ดี ข้อกำหนดพินัยกรรมในการจัด ตั้งมูลนิธินั้นเป็นอันไร้ผล
มาตรา 1680 เจ้าหนี้ของผู้ทำพินัยกรรมมีสิทธิที่จะร้องขอให้เพิก ถอนข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งก่อตั้งมูลนิธินั้นได้เพียงเท่าที่ตนต้องเสีย ประโยชน์เนื่องแต่การนั้น
มาตรา 1681 ถ้าทรัพย์สินซึ่งเป็นวัตถุแห่งพินัยกรรมนั้นได้สูญหาย ทำลาย หรือบุบสลายไป และพฤติการณ์ทั้งนี้เป็นผลให้ได้ทรัพย์สินอื่น มาแทนหรือได้สิทธิเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนทรัพย์สินนั้น ผู้รับ พินัยกรรมจะเรียกให้ส่งมอบของแทน ซึ่งได้รับมานั้นหรือจะเรียกร้อง เอาค่าสินไหมทดแทนเสียเองก็ได้แล้วแต่กรณี
มาตรา 1682 เมื่อพินัยกรรมทำขึ้นเป็นการปลดหนี้หรือโอนสิทธิ เรียกร้อง พินัยกรรมนั้นมีผลเพียงจำนวนซึ่งคงค้างชำระอยู่ในเวลาที่ ผู้ทำพินัยกรรมตาย เว้นแต่ผู้ทำพินัยกรรมจะได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ถ้ามีเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้ที่ปลดให้ หรือสิทธิเรียกร้องที่ โอนไปนั้น ก็ให้ส่งมอบแก่ผู้รับพินัยกรรมและให้ใช้ มาตรา 303 ถึง มาตรา 313,มาตรา 340 แห่งประมวลกฎหมายนี้บังคับโดยอนุโลม แต่ถ้าผู้ทำพินัย กรรมจะต้องกระทำการหรือดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตาม มาตรา นั้น ๆ แล้วบุคคลผู้ต้องจัดการตามพินัยกรรมหรือผู้รับพินัยกรรมจะ กระทำการหรือดำเนินการนั้น ๆ แทนผู้ทำพินัยกรรมก็ได้
มาตรา 1683 พินัยกรรมที่บุคคลทำให้แก่เจ้าหนี้คนใดของตนนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า มิได้ทำขึ้นเพื่อชำระหนี้อันค้างชำระแก่เจ้าหนี้ คนนั้น
มาตรา 1684 เมื่อความข้อใดข้อหนึ่งในพินัยกรรมอาจตีความได้ เป็นหลายนัย ให้ถือเอาตามนัยที่จะสำเร็จผลตามความประสงค์ของ ผู้ทำพินัยกรรมนั้นได้ดีที่สุด
มาตรา 1685 ในกรณีที่ผู้ทำพินัยกรรมได้กำหนดผู้รับพินัยกรรม ไว้โดยคุณสมบัติที่ทราบตัวแน่นอนได้ ถ้ามีบุคคลหลายคนทรงไว้ซึ่ง คุณสมบัติที่จะเป็นผู้รับพินัยกรรมตามที่ผู้ทำพินัยกรรมกำหนดไว้ดั่ง นั้นได้ ในกรณีที่มีข้อสงสัยให้ถือว่าทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับส่วนปัน เท่า ๆ กัน
|