ReadyPlanet.com
dot
ประมวลกฎหมาย
dot
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletพระราชบัญญัติ
bulletความรู้กฎหมาย
bulletสำนัก,ทนาย,ทนายความ
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletปรึกษากฎหมาย
bulletวิชาชีพทนายความ
bulletข้อบังคับสภาทนายความ
bulletคำพิพากษาฎีกา
bulletเช่าซื้อขายฝากซื้อขาย
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletเกี่ยวกับ วิ.แพ่ง
bulletคดีเกี่ยวกับวิ.อาญา
bulletคำพิพากษารวม
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletการสิ้นสุดการสมรส
bulletการใช้กฎหมายอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
dot
Newsletter

dot




การสืบมรดกของทายาทผู้สละมรดก

การสืบมรดกของทายาทผู้สละมรดก 

เจ้ามรดกไม่มีทายาทโดยธรรม ลำดับที่ 1(ผู้สืบสันดาน) และ ที่ 2 (บิดามารดา) คงมีเพียงพีน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันซึ่งเป็นทายาท ลำดับที่ 3 เมื่อทายาทโดยธรรมคนใดคนหนึ่งในจำนวนทายาทผู้มีสิทธิรับมรดก ได้สละมรดกแล้ว ผู้สืบสันดานของทายาทผู้สละมรดกมีสิทธิสืบมรดกได้และชอบที่จะได้รับส่วนแบ่งเท่ากับส่วนแบ่งที่ผู้สละมรดกนั้นจะได้รับ ผู้สืบสันดานของผู้สละมรดกมีฐานะเป็นทายาทโดยธรรมลำดับเดียวกับพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับเจ้ามรดก

   คำพิพากษาศาลฎีกาที่3961-3962/2528

 อายุความฟ้องร้องคดีมรดก ต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่เจ้ามรดกตาย

          มารดาของจำเลยเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับโจทก์และเจ้ามรดก เมื่อมารดาจำเลยสละมรดก จำเลยซึ่งเป็นบุตรจึงมีสิทธิสืบมรดกได้ตามมาตรา 1615 และมีฐานะเป็นทายาทของเจ้ามรดก ในลำดับเดียวกับโจทก์ มีสิทธิยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ ตามมาตรา 1755

 
          คดีสองสำนวนนี้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกัน โดยสำนวนแรกโจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งห้ากับนายหยี่และนางไทเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดากับนางสี  เจ้ามรดก มีสิทธิรับมรดกที่ดินพิพาทรวม 3 โฉนด ของเจ้ามรดกซึ่งถึงแก่กรรม แต่จำเลยได้ยึดโฉนดที่ดินพิพาททั้ง 3 ฉบับไว้ จึงฟ้องขอให้บังคับจำเลยส่งมอบโฉนดที่ดินพิพาททั้งสามฉบับแก่โจทก์ หากส่งให้ไม่ได้ก็ขอให้ศาลมีคำสั่งไปยังหอทะเบียนที่ดินให้ออกโฉนดที่ดินฉบับใหม่แก่โจทก์และห้ามจำเลยเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาท

   สำนวนหลังโจทก์ฟ้องมีใจความว่า นอกจากที่ดินพิพาท 3 แปลงตามฟ้องสำนวนแรกแล้ว เจ้ามรดกยังมีบ้านไม้ 1 หลัง ราคาประมาณ 3,000 บาท ยุ้งข้าว1 หลัง ราคาประมาณ 2,000 บาท และควาย 2 ตัว ราคาประมาณ 3,000 บาทซึ่งจำเลยครอบครองอยู่ในฐานะจำเลยเป็นบุตรบุญธรรมของเจ้ามรดกแต่ไม่ได้จดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมและจำเลยเข้าทำนาในที่ดินทั้งสามแปลงตามฟ้องสำนวนแรก จำเลยจึงควรเสียค่าเช่านาให้แก่ทายาทผู้รับมรดก รวมค่าเช่า 22,200 บาท เมื่อรวมกับทรัพย์สินอื่นที่กล่าวมา 8,000 บาท รวมเป็นทรัพย์มรดก 30,200 บาท โจทก์มีสิทธิได้รับ 5 ใน 7 ส่วน เป็นเงิน 21,565 บาท ขอให้บังคับจำเลยมอบคืนบ้าน ยุ้งข้าว และควาย 2 ตัวแก่โจทก์ ถ้าไม่สามารถคืนได้ให้ใช้ราคาตามสิทธิของโจทก์ 5 ใน 7 ส่วน เป็นเงิน 5,710 บาท กับชำระค่าเช่านาตามสิทธิของโจทก์เป็นเงินประมาณ 15,855 บาทแก่โจทก์ กับให้จำเลยเสียค่าเช่านาให้แก่โจทก์ในปีต่อไปปีละ 120 ถัง คิดราคาถังละ 30 บาท เป็นเงินปีละ 2,570 บาทตามส่วนได้ของโจทก์จนกว่าจะส่งมอบที่ดินให้โจทก์

  ในสำนวนแรกจำเลยให้การและแก้ไขคำให้การว่า จำเลยเป็นบุตรของนางไท  ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันนกับโจทก์ทั้งห้า นายหยี่ และนายบุญ  นายหยี่  และนางไท ได้สละมรดกแล้ว จำเลยในฐานะผู้สืบสันดานของนางไทก็เข้าสืบมรดกแทนที่นางไท จำเลยเข้าครอบครองที่พิพาททั้งสามแปลงอย่างเป็นเจ้าของ 6-7 ปีแล้วโจทก์ทั้งห้าไม่เคยเข้าเกี่ยวข้องด้วยเลย โจทก์ฟ้องคดีเกิน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่นางสีตาย คดีของโจทก์ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง

  สำนวนที่สอง จำเลยให้การเหมือนกับสำนวนแรกและมีข้อความเพิ่มเติมว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเช่านาจากจำเลย บ้านไม้และยุ้งข้าวของเดิมได้ผุพังหมดแล้วที่มีอยู่ขณะนี้เป็นของจำเลยปลูกสร้างขึ้นใหม่ ควาย 2 ตัว นางสีได้ยกให้จำเลยแล้วขอให้ยกฟ้อง

 ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความ พิพากษายกฟ้องโจทก์ทั้งสองสำนวน

  โจทก์อุทธรณ์

 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

   ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า นางทวน  โจทก์ที่ 1 เบิกความว่า ก่อนนางสีตายนางจ้อยเป็นคนทำนาในที่ดินแปลง 2 ไร่เศษ (ที่ดินโฉนดเลขที่ 10151) ส่วนจำเลยทำนาในที่ดินแปลง 7 ไร่ และ 8 ไร่ (ที่ดินโฉนดเลขที่ 4570 และ 4579) เมื่อนางสีตายแล้ว นางจ้อยและจำเลยก็ยังคงทำนาอยู่ในที่ดินดังกล่าวและยังเบิกความอีกตอนหนึ่งว่าตอนที่นางสีตายใหม่ ๆ พยานกับพี่น้องทุกคนจะไม่เอาที่ดินมรดกของนางสี โดยจะให้จำเลยและนางจ้อยแบ่งกันเอง แสดงว่าโจทก์ทั้งห้ามิได้ครอบครองที่พิพาททั้งสามแปลงดังกล่าวแต่อย่างใด อีกทั้งข้อเท็จจริงปรากฏว่าหลังจากนางสีตายแล้ว 2 ปี จำเลยได้ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในที่พิพาททั้งสามแปลงโดยการครอบครองปรปักษ์ดังกล่าวแล้ว ประกอบกับจำเลยเบิกความว่าที่ดินแปลง 2 ไร่เศษ (ที่ดินโฉนดเลขที่ 10151) นางจ้อยเป็นคนทำจำเลยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ส่วนจำเลยทำนาในที่พิพาทอีก 2 แปลง บ้านไม้ ยุ้งข้าว และกระบือที่พิพาทนางสี ยกให้จำเลยก่อนนางสีตาย แสดงให้เห็นว่าหลังจากนางสีตายแล้วจำเลยและนางจ้อยได้แบ่งกันครอบครองทรัพย์มรดกของนางสีเพื่อตนเองเป็นส่วนสัดตลอดมา ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่า โจทก์ทั้งห้าซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของนางสีไม่ได้ร่วมครอบครองทรัพย์มรดกของนางสี และจำเลยก็มิได้ครอบครองทรัพย์มรดกของนางสี แทนทายาทคนอื่น ๆ แต่ประการใด ฉะนั้นเมื่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 วรรคแรก บัญญัติว่า "ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดกตาย ฯลฯ" อายุความฟ้องร้องคดีมรดกจึงต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่เจ้ามรดกตาย เมื่อนางสีตาย พ.ศ. 2517 อายุความ 1 ปี ก็ต้องเริ่มนับตั้งแต่นั้นมา หาใช่เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม 2524 ซึ่งเป็นวันฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 215/2521 ของศาลจังหวัดสุพรรณบุรี ดังโจทก์ทั้งห้าฎีกาไม่ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า โจทก์ทั้งห้าเพิ่งฟ้องคดีทั้งสองนี้เมื่อ พ.ศ. 2524 และ พ.ศ. 2525 เป็นการฟ้องภายหลังนางสีเจ้ามรดกตายเกินกว่า 1 ปี คดีของโจทก์จึงขาดอายุความแล้ว

 มีปัญหาต่อไปว่า จำเลยมีสิทธิยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ทั้งห้าผู้เป็นทายาทโดยธรรมาอันดับ 3 ของนางสีได้หรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าสัญญาประนีประนอมยอมความเอกสารหมาย ล.6 ที่นางไท มารดาจำเลยกับนายหยี่  ได้ตกลงกันระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของนางสี โดยทั้งสองฝ่ายต่างสละสิทธิในการรับมรดกของนางสี สัญญาดังกล่าวจึงมีผลเป็นการสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 จำเลยซึ่งเป็นบุตรผู้สืบสันดานของนางไท้ จึงมีสิทธิสืบมรดกได้ตามสิทธิของตนตามมาตรา 1615 และมีฐานะเป็นทายาทของนางสีในลำดับเดียวกันกับโจทก์ทั้งห้าจึงมีสิทธิยกอายุความ 1 ปีขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ตามมาตรา 1755

  พิพากษายืน

 




เรื่องมรดก

บิดาไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตาย
การจัดการทรัพย์มรดกซึ่งมีผู้เยาว์เป็นทายาทอยู่ด้วย
โฉนดที่ดินยังมีชื่อเจ้ามรดกทายาทมีอำนาจฟ้อง
เจ้ามรดกได้จำหน่ายทรัพย์โดยพินัยกรรมแล้ว
นำพินัยกรรมซึ่งเป็นโมฆะมายื่นขอตั้งผู้จัดการมรดก
ในฐานะที่จะให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้อยู่ก่อน
เป็นผู้จัดการมรดก 2 ปีไม่แบ่งทรัพย์มรดก
ข้อต่อสู้เรื่องขาดอายุความของผู้ค้ำประกัน
ยื่นคำร้องขอถอนผู้จัดการมรดก
ผู้จัดการมรดกต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?
หน้าที่ของผู้จัดการมรดกมีอะไรบ้าง?
การแบ่งปันทรัพย์มรดกที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ
สิทธิเรียกร้องอันมีต่อเจ้ามรดก
เพิกถอนการจดทะเบียนโอน
สิทธิเรียกร้องมรดกขาดอายุความแล้วหรือไม่?
สิทธิของบุคคลที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ได้
บันทึกไม่ประสงค์ขอรับมรดกที่ดินและยินยอมให้จำเลยรับมรดกแปลงนี้แต่ผู้เดียว
วัดก็สามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้
การมอบอำนาจบกพร่อง
บุคคลที่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
ทายาทเป็นปฏิปัษ์ต่อกัน,ทรัพย์มรดก
ถือเสียงข้างมากของผู้จัดการมรดก
ดุลพินิจศาลในการตั้งผู้จัดการมรดก
พินัยกรรมยกทรัพย์ให้สถานที่สักการะ
เจ้าหนี้ร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดก
สัญญาแบ่งปันทรัพย์มรดก
ทรัพย์มรดกซึ่งยังไม่ได้แบ่งกัน,อายุความ
สัญญายอมความส่วนแบ่งมรดก
โอนมรดกในส่วนของทายาทอื่น
สิทธิของทายาทโดยธรรมต่างลำดับ
บุคคลผู้มีสิทธิรับมรดก
หน้าที่ผู้จัดการมรดกต่อทายาทโดยธรรม
ทรัพย์สินที่มีอยู่ในขณะถึงแก่ความตาย article
ที่ดินผู้ตายสละการครอบครองไม่ใช่มรดก
ผู้ขายทำพินัยกรรมหลีกเลี่ยงข้อกำหนดห้ามโอน
ทรัพย์สินผู้ตายในขณะทำพินัยกรรม
พินัยกรรมมิได้ลงวันเดือนปีเป็นโมฆะ
ดอกผลธรรมดาของสุกรเป็นมรดก
ดอกผลของที่ดินทรัพย์มรดก
เงินประกันชีวิตไม่ใช่มรดก
ทายาทถูกตัดไม่ให้รับมรดก
อายุความมรดกตามมาตรา 1754
บิดาสายโลหิต สิทธิรับมรดกบุตรนอกกฎหมาย